094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

(ตอน 2) live สดกับคุณพริม International Recruitment จาก University of the West of England เมือง Bristol, UK

(ต่อจากตอน 1)

UWE: โอเคเดี๋ยวต่อไปก็จะให้ดูอันนี้เป็นหน้าตาตึกเมื่อกี้ที่พี่พริมได้บอกไปเนอะ ก็จะเป็น Business School ตัวใหม่ของเรานะคะก็เด็กที่เรียนสาขา Business ทั้งหมดแล้วก็พวก Law ก็จะใช้ตึกนี้เรียนเป็นหลัก

เลยนะคะอันนี้จะเป็นห้อง Boomberg สำหรับเด็กที่เรียน Finance ที่พูดถึงไปเมื่อกี้เลยทีนี้เรามาดูในเรื่องของคอร์สเรียนกันบ้างนะคะ อันนี้จะเป็น ป.โท ที่พริมดึงมาที่เปิดใหม่เมื่อปีที่แล้วและค่อนข้างน่าสนใจนะคะก็จะมีอันแรกเลยจะเป็นตัว FinTech อันนี้จะเหมาะสำหรับเด็กที่สนใจหรือที่เรียนทาง Finance มานะคะแล้วก็อยากจะต่อยอดอะไรที่คิดว่าเขาไม่ได้อยากจะต่อไปทางด้าน Finance จ๋าๆ แล้ว

FinTech ของเรานี่ก็จะเน้นเหมือนเป็น Financial กับ Computer Engineering เอามาเรียนรวมกัน

น้องก็จะเรียนอะไรที่เป็น Data Science + Computer Science + Finance + Business + Enterprise

จริงๆ เราไม่ได้ Require ว่าน้องจะต้องจบคณะไหนมาโดยตรงแต่ว่าตัวคนที่ต้องไปเรียนเองเขาจะต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องของ Finance และอาจจะเป็น Computer Science นิดนึงเพราะไม่งั้นมันอาจจะยากเกินไปสำหรับเขานะคะ

UWE: โอเคต่อมาก็จะเป็นตัวคณะที่พึ่งเปิดเลยเมื่อปีที่แล้ว ก็คือ Risk Management and Insurance สำหรับคนที่เหมือนแบบทำงานในสายที่เกี่ยวกับประกันภัยมาหรือว่าอยากจะเจาะลึกลงไปเกี่ยวกับการวางแผนคือมัน UWE: ไม่ได้สอนแค่ว่าระบบประกันเป็นยังไงแต่มันสอนลึกไปถึงเกี่ยวกับการวางแผนประกันต่างๆ ว่าจะต้องทำยังไงประมาณนั้นเลยนะคะ

UWE: ต่อมาจะเป็นตัว Digital Marketing นะคะจริงๆ ค่อนข้าง Popular มากมีน้องๆ มาถามถึงเยอะมากๆ เลย

ซึ่ง Digital Marketing ของ UWE อาจจะเข้ายากนิดนึงจากประสบการณ์ที่เปิดมาปีที่แล้วอะไรอย่างนี้เพราะมันจะมีในเรื่อง Social Media เข้ามามีเรื่องเกี่ยวกับการตัดต่ออะไรเข้ามาด้วยปีนี้ก็เลยมีการปรับคอร์สใหม่ที่ใกล้เคียงกับ Digital Marketing ขึ้นมาก็จะเป็น Msc Business with Digital Management คือถ้าน้องเข้า Digital Marketing ไม่ได้ก็แนะนำให้ไปเรียนตัวนี้เพิ่มเติมเอานะคะ

อีกตัวนึงก็จะเป็น Screen Business ซึ่งตัวนี้มันก็จเกี่ยวข้องกับพวกอย่างเช่น Netflix คนที่ออกมาทำช่องเกี่ยวกับหนังที่ไม่ได้เหมือนกับที่เราดูเมื่อก่อนค่ะ ตัวนี้เดี๋ยวเราค่อยมาพูดกันอีกทีนะคะ

เดี๋ยวพริมจะให้ดูตัวคอร์สที่นักเรียนนิยมของ UWE อีกนิดนึงนอกเหนือจากที่เราพูดกันไปเมื่อกี้ค่ะมันก็จะมีเป็นพวก MBA, Finance, Event Management, HRM, Occupational Psychology นะคะพวกนี้ก็คือจะเป็นคณะที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากที่เราเปิดสอนกันนะคะแล้วก็ในรอบ January 2021 ก็จะมีคอร์สพวกนี้ให้นักเรียนเรียนด้วยนะคะ

UWE: ตัว MBA ของ UWE เนี่ยเราจะ Require ประสบการณ์การทำงานนิดนึงเพราะมันเป็น Executive คือตอนจบจะต้องทำ Executive Dissertation หรือเป็น Consultancy Dissertation ก็เลยจำเป็นว่าน้องเนี่ยควรมีประสบการณ์การทำงานมา แต่ถ้าถามว่าไม่ถึง 1 ปีเลยอาจจะประมาณสัก 6-8 เดือน แต่น้องอยู่ในสายงาน Business มาก็ลองมาสมัครดูได้นะคะ

UWE: ส่วน Finance ของเราก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างที่บอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งในประเทศอังกฤษที่สอนด้วยห้อง Boomberg แล้วก็ค่าเรียน Finance ของเราที่มีห้อง   ค่อนข้างราคาไม่สูงแต่ได้ Benefit กลับไปค่อนข้างเยอะนะคะแล้วก็อย่างตัว Event Management เนี่ยมันก็จะดีตรงที่เราเน้นในเรื่องการปฏิบัติเลยคือน้องจะได้ลงมือทำงานกับ Festival ต่างๆ ในประเทศอังกฤษเลยค่อนข้างเยอะ คือเรียนจบปุ๊ปกลับมาเมืองไทยน้องเก่งแน่นอนค่ะ แต่ส่วนใหญ่คนที่เรียนสาขานี้ก็จะสามารถต่อยอดและทำงานในประเทศอังกฤษต่อได้ค่อนข้างง่ายด้วยค่ะ

ส่วน HR ของเราเนี่ยจริงๆ UWE มีคอร์ส HR เปิดค่อนข้างเยอะมีตั้งแต่ HRM หรือว่าเป็น International HRM นะคะซึ่งข้อดีของเราเนี่ยก็คือเป็น Membership ของ CIPD คือเด็กที่เรียยนในสายของ HR ก็จะพอทราบตรงนี้เนอะ และข้อดีของเราคือก่อนที่นักเรียนจะจบ Master อ่ะค่ะ เขาจะบังคับให้นักเรียนทำ Work-based ก็คือเข้าไปทำงานกับบริษัทจริงๆ ด้วยก่อน 10 สัปดาห์ก่อนที่น้องจะจบเพราะฉนั้นหมาายความว่าก่อนที่น้องจะจบมาและกลับมาทำงานในสาย HR เกี่ยวกับการบริหารคนเนี่ยบริหารบุุคคลในองค์กรต่างๆ เนี่ยเขาจะต้องมีประสบการณ์จริงมาแล้วเพราะฉนั้นเขาจะเห็นแล้วว่าการทำงานจริงเป็นยังไงปัญหาเป็นยังไง เขาก็จะค่อนข้างที่จะแบบมีศักยภาพในการกลับมาทำงานจริงๆ ในตลาด

York: เดี๋ยวเกลถามนิดนึงนะคะที่บอกว่าทำงานก่อนที่จะเรียนจบ 10 weeks นี่เฉพาะ HR ใช่มั้ยคะ

UWE: ใช่ค่ะเพราะคณะนี้จะบังคับให้ทำเลย แต่ถ้าเป็นสาขาอื่นๆ อ่ะค่ะอย่างเช่นสมมุติเป็น Marketing Communication หรือจะเป็น MBA เองก็ตามนักเรียนเขามีความประสงค์ที่ว่าอยากที่จะทำงานหรือฝึกงานสั้นๆหรือจะทำ Project กับบริษัทเนี่ยสามารถยื่นเรื่องหรืออาจจะคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนแล้วติดต่อที่ International office ที่เขาดูแลนักเรียนต่างชาติได้เขาก็จะมีการเหมือนคุยกับนักเรียนว่าโอเคคุณมีหัวข้อ Dissertation หรือหัวข้อ Project ประมาณไหนแล้วอยากที่จะลองทำงานหรือฝึกงานกับบริษัทอะไร

เขาก็จะเป็นเหมือนศูนย์กลางที่จะ Co นักเรียนให้เข้าไปสัมภาษณ์กับบริษัทเหล่านั้นได้ค่ะ เพราะฉนั้นคณะของ UWE เนี่ย 70-80% นักเรียนมีโอกาสที่จะได้ดูงาน ทำงาน หรือฝึกงาน ก่อนที่จะทำตัวจบได้ค่ะ

UWE: โอเคค่ะและอันนี้อันสุดท้าย พริมแนะนำเป็นพิเศษเพราะในช่วงยุคนี้มีนักเรียนที่เขาสนใจที่จะทำเกี่ยวกับ Psychology มากขึ้นแต่เนื่องจากว่า background อ่ะเขาไม่ได้จบด้านนี้มาโดยตรง ก็อาจจะเป็นเรียนทางด้าน Business มาแต่มองว่าพวก Business and Psychology ในช่วงนี้ยุคนี้มันค่อนข้างน่าสนใจอะไรแบบนี้ค่ะ ก็มีคณะนี้ที่รองรับให้นักเรียนสามารถไปเรียนได้แต่ก็ไม่ได้รองรับนักเรียนที่จบ background แบบอะไรมาก็ได้นะะคะ ก็คืออาจจะต้องเรียนเป็น Business มาบ้างหรือเป็นเอ่อมี จิตวิทยาเป็นวิชาโท อะไรประมาณนี้ค่ะ

UWE: อันนี้ก็เป็นภาพของงาน Job Fair ที่จัดที่ UWE อย่างที่พริมเกริ่นไปแล้วว่าเราเนี่ยจะเด่นมากเลยเรื่องของการ Support นักเรียนในเรื่องของการทำงานหางานที่มหาวิทยาลัยก็จะจัด Job Fair ที่ใหญ่ที่สุดใน South West จัดที่ UWE เลยปีละ 2 ครั้งซึ่งข้อดีของการเป็นนักเรียนที่ UWE เนี่ยก็คือโอกาสที่เขาจะได้ Register แล้วก็เจอบริษัทดังๆ ก่อนแล้วก็มีโอกาสได้คุยก่อนนะคะประมาณนี้

UWE: แล้วก็เอ่อข้ามไปทางด้านสาขา Engineer บ้างคือนอกเหนือจากตัว Business แล้วเนี่ย UWE ก็จะดัง Engineer เหมือนกันที่เป็นอีกคณะที่มีนักเรียนไทย แต่ส่วนมากจะเป็นนักเรียนปริญญาตรี    ส่วนมากจะเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียน Inter อย่างนี้อ่ะค่ะเขาก็จะแพลนว่าอยากจะเรียนต่อ Engineer  ที่ประเทศอังกฤษก็ของเราก็จะเป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยมมากในสาขานี้ ของเราที่มีเด่นๆ เลยแล้วก็แบบมหาวิทยาลัยอื่นไม่ได้มีไม่ได้เปิดสอนเนี่ยก็จะเป็นพวก Aerospace Engineering จริงๆ มีถึงขั้นเกี่ยวกับการสอนขับเครื่องบินเลยนะคะก็เป็นพวก Pilot study ด้วยนะคะหรือว่าอาจจะเป็นพวก Mechanical หรือว่าพวก Aviation แนวๆนี้อ่ะค่ะของเราก็จะเด่นและก็ได้รับความนิยมสูงมาก

ทีนี้ UWE จริงๆ ที่เมือง Baristol เนี่ยมันจะขึ้นชื่อว่าเป็น Robotics นะคะเป็นเมืองเกี่ยวกับ Robotics laboratory ซึ่งอันนี้เราก็จะมีคณะที่เปิดสอนซึ่ง Co การเรียนการสอนกับอีกมหาวิทยาลัยนึงใน Bristol ด้วยเหมือนกันแต่ว่าการเรียนการสอนก็จะมาเรียนที่ UWE นะะคะซึ่งการเรียนการสอนเราก็จะมี Lab ของ

Robotics สอนเด็กซึ่งถ้าน้องๆ สนใจเนี่ย คือพริมมองว่ามันเป็น Trend ในอนาคตเนี่ยน่าจะได้รับความนิยมสูงมากคือใน UWE ในสาขาวิชาของ Engineer กับ Robotics เนี่ยเขาก็จะมีลงคลิปลงอะไรที่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่อนข้างเห็นถึงความพัฒนาในด้านของหุ่นยนต์แบบนี้ค่ะ ค่อนข้างน่าสนใจมากก็อยากให้น้องๆ ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมในเว็ปไซต์ของมหาวิทยาลัยหรือว่าใน Youtube ได้เหมือนกันก็จะเห็นเลยว่าโอ้โหมันสามารถพัฒนามาได้ถึงขนาดนี้แล้วอะไรแบบนี้ค่ะเนอะ

UWE: ส่วนเด็กที่อยากเรียน Engineering ก็มีข้อดีเหมือนกันค่ะเรามีการสร้าง Engineer Building ใหม่ จริงๆ จะต้องเปิดในปีนี้แต่ว่าปีนี้มันติดเรื่องของโควิด เด็กน่าจะได้ใช้ตึกในช่วงของเดือนมกราคมประมาณนั้น นะคะ อันนี้ก็จะเป็นแพลนของ Engineer ของเราที่นักเรียนจะได้ใช้นะคะ ทุกคนที่เรียน Engineer ก็จะได้ใช้ตึกนี้เลยนะคะ แล้วก็ในส่วนของ Engineering ของเราก็จะเน้นในเรื่องของการเรียนการสอนเป็น Problem Based Learning คือเหมือนว่าเราก็จะมีโจทย์หรืออะไรที่เป็นพูดง่ายๆ ให้ห็นภาพเนอะ เหมือนตอนเด็กๆ นักเรียนต่อเลโก้กัน เราก็จะมาดูว่าแต่ละชิ้นส่วนมันประกอบเข้าหากันยังไง อันนี้คือพริม พูดถึงทุกๆ อย่างเนอะไม่ใช่แค่เรื่องของ Mechanical หรือ Aviation นะคะ

คือก็จะเน้นว่าแต่ละส่วนที่น้องเข้าไปเรียนมันมีปัญหา step1 step2 step3 มันเป็นยังไง เค้าจะเอาปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ในองค์กร สมมุติว่าถ้าคุณเกลเคยดูรายการมันชื่อว่า aircrash investigation เครื่องบินที่เคยมีปัญหา อย่างเครื่องบินตกอย่างงี้ปัญหามันเกิดจากอะไร เค้าจะเอาตรงนั้นมาสอนนักเรียนทั้งหมดเลย เพราะฉะนั้นนักเรียนที่เข้ามาเรียนที่ UWE จะเรียนลึกลงไปถึงแก่นของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ จะทราบว่าถ้าเจอปัญหานี้จะแก้ยังไง แล้วเค้าก็วางแผนยาวไปถึงสิบยี่สิบปีข้างหน้าว่าถ้ามันมีปัญหาต้องทำยังไงเด็กก็จะได้เรียนแล้วก็ออกมาเค้าก็จะเก่งมากๆ เลย ในการแก้ไขปัญหา

ข้อดีอีกอันนึงสำหรับที่เรียน Engineering กับเราก็คือ Field Trips ที่มหาวิทยาลัยอาจจะไปดูงานในบริษัท ส่วนมากก็จะเป็นบริษัทดังๆ คืออาจจะอยู่ในอังกฤษเองแล้วก็ออกไปในเครือยุโรปต่างๆ ประมาณนี้นะคะ จริงๆ ปีนี้นักเรียนจะต้องไปบริษัท Airbus ที่ฝรั่งเศสไปดูงานว่าเป็นยังไง ส่วนปีหน้าอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงบ้างสืบเนื่องจากโควิด หลายๆ อย่างอาจจะการต้องเปลี่ยนแปลงไปเราก็จะยังคงรูปแบบกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนนะคะ อันนี้ไม่ต้องห่วง โอเคอันนี้ก็จะเป็น ตัวอย่าง Research ต่างๆ ที่เราทำกันมาใน field ของ engineer นะคะ

ทีนี้กระโดดมาถึงเรื่องการ support นักเรียนแล้วกัน อย่างที่แจ้งไปแล้วว่า UWE จะมีทีม Student Advice เป็นทีมที่อยู่ใน Campus เลย ก็จะช่วยนักเรียนในเรื่องการหางาน Part-time เป็นช่วงที่นักเรียนอาจจะยังไม่อยากทำงานจริงจัง เพราะนักเรียนไทยสามารถทำงานได้ 20 ชม. ต่อสัปดาห์ เราก็จะมีทีมที่คอยช่วยถ้าหากนักเรียนไม่ได้อยากทำงานร้านอาหารก็อาจจะเป็นงานอย่างที่บอกพวกงาน Festival ต่างๆ นักเรียนก็จะสามารถเดินเข้าไป walk-in เข้าไปคุยได้ หรือว่าส่งemail ที่อยู่อังกฤษก็สามารถโทรศัพท์ได้ ทำ appointment เข้าไปคุยกับเค้า เค้าก็จะช่วยเรา หรือนอกเหนือจากpart-time ก็จะเป็นงาน full-time เค้าก็จะช่วยให้คำแนะนำตั้งแต่การเขียน CV ต้องทำยังไง การฝาก CV ไปในที่ต่างๆ การสัมภาษณ์กับบริษัทยังงี้ค่ะ เราก็จะมีตรงนี้ที่ให้คำแนะนำกับนักเรียนโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเลย ก็คือเป็น Benefit ของการเป็นนักเรียน UWE ค่ะ โอเคซึ่งตรงนี้เราได้รางวัลด้วยนะเหมือนเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้การ support นักเรียนในเรื่องของ Career Service Support ยอดเยี่ยม

อีกอันนึงนอกเหนือจากทีมที่เรามี เราก็จะมีเป็น Platform online ชื่อ GradLink แต่จริงๆ GradLink ถ้าเราชื่อไป search ใน google มันจะขึ้นมาเยอะมาก GradLink UK, GradLink ASEAN, GradLink China ประมาณนี้จริงๆ มีหมดก็คือเป็น Platform ที่ UWE ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนกับบริษัทมาเจอกัน คือนักเรียน UWE ก็จะเอา CV ไปฝากไว้ในนั้นได้ แล้วเค้าก็จะเหมือนคือก็อาจจะเหมือน JobDB ที่นักเรียนใช้กัน แต่อันนี้จะเป็นแบบระดับสากลเลยแล้วก็จะเลือกได้ว่า สมมุติว่าน้องเพิ่งเรียนจบจาก UWE มาเป็น Alumni เพิ่งจบเลยแล้วเค้าอยากทำงานต่อในโซนสิงคโปร์ มาเลเซีย เราก็จะมี Platform GradLink ASEAN ตัวนี้ให้นักเรียนเอา CV ไปฝาก หรือบริษัทเองก็จะมีตำแหน่งงานที่มาโพสต์อยู่หน้าเว็บไซส์ โอกาสที่เค้าจะได้งานทำให้เค้ารู้ว่าเค้าจะต้องหางานทางไหนได้ง่ายขึ้น นี่ค่ะก็จะมีทั่วโลกเลยนี่จะเป็น GradLink Platform ทั้งหมดที่ UWE ทำให้กับนักเรียนเพื่อให้บริษัทมาเจอกัน

อันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างบริษัทที่เรา Co กันอยู่นะ จริงๆ มันก็มีทุกสาขาอาชีพเลย Unilever, Siemens, Deloitte มีหมดเลยนะคะ เยอะมากๆ ประมาณนี้ ทีนี้จะพูดถึงเรื่อง Benefit ของการไปเรียนที่ประเทศอังกฤษบ้าง คือเมื่อ 5 ปีก่อน มันอาจจะยากนิดนึงสำหรับนักเรียนที่ไปเรียนที่อังกฤษแล้วแพลนว่าอยากจะอยู่ต่อเพื่อที่ทำงาน อย่างเราเสียเงินไปห้าแสน หนึ่งล้าน ก็อยากจะทำงานเพื่อให้ได้ค่าเรียนกลับมา ตั้งแต่ปี 2019 จนตอนนี้ปี 2020 คือจากตอนนี้ถ้าไม่มีกฎอะไรเปลี่ยนแปลง เรียนจบแล้วก็อยู่ต่อได้อีก 2 ปี โดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องได้งานก่อน

อันนี้ก็จะเป็นข้อดีสำหรับนักเรียนถ้าจะ compare กับประเทศอื่นๆ อย่างน้องบ้างคนก็อาจจะถามว่าถ้าเค้าไปอยู่ออสเค้าก็อยู่แล้วก็ทำงานพิเศษได้ง่าย ได้เงินเยอะและอยู่ต่อได้ด้วย ซึ่งตอนนั้นอังกฤษยังทำไม่ได้ แต่ว่านับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าหนึ่งไปเรียนอังกฤษมันก็ไม่ได้แพง เหมือนเมื่อก่อนแระ เนื่องจากค่าเงินก็ตกลงมาเยอะ สอง ระหว่างเรียนสามารถทำงานพิเศษได้ ก็อย่างน้อยปีนึงพริมเคยคำนวณจากประสบการณ์โดยตรงและประสบการณ์ของคนรู้จักก็สองสามแสน ก็ถึงว่าเยอะนะคุณเกล เรียนจบแล้วก็สามารถทำงานได้ต่ออีก 2 ปี บางคนถ้าเค้ามี connection เค้าก็อาจจะอยู่ได้นานกว่าสองปีนั้นก็ได้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเรียนไทยที่มีแผนที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก อังกฤษก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีน่ะค่ะ ที่ตอบโจทย์เลย

โอเค ตัวนี้จะเป็นโปรแกรมที่ จริงๆ UWE จะมีเหมือนตัว support นักเรียนในการเรียนเยอะมาก นอกเหนือจากแค่การเรียน Research นะคะ แล้วก็การใช้ห้องสมุด อันนี้ก็จะเป็นอีกอันนึงมันเรียกว่า BDA ตัว BDA มันจะเป็นการที่เราเชิญ Business Leader จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาแชร์ความรู้ แชร์ไอเดีย ให้กับนักเรียน อย่างในภาพก็จะมาจาก bank บ้าง Tesco หรือว่ามาจาก Airbus อันนี้คือยกตัวอย่างเนอะ คือแต่สาขาวิชาก็จะมี Business Leader จากแต่ละสาขากันไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่ตำแหน่งค่อนข้างสูง ประสบการณ์ในการทำงานเป็นสิบยี่สิบปี จะเป็นคนเหมือนมีมุมมองในการทำธุรกิจที่กว้างกว่ามากๆ คือจะเข้ามาแชร์กับนักเรียนของเรา นี่ก็เป็น Benefit อันนึงของการมาเรียนที่ UWE นักเรียนจะได้เรียนกับคนที่มีประสบการณ์จริงๆ ผ่านงานมาเยอะแล้ว แล้วก็จะช่วยเค้าในเรื่องของไอเดีย ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน

อย่างพี่จอยศิษย์เก่า UWE ที่เป็น Country Manager นะคะ ที่อยู่เมืองไทยตอนนี้เค้าก็เรียน MBA ที่นี่ซึ่งเค้าก็มีโอกาสได้เจอกับ chairman ของ Tesco คือเอาจริงพนักงาน Tesco ในเมืองไทย ก็คือ lotus นั่นเองเนอะ หลายๆ คน พริมเชื่อว่า 95% ไม่มีใครได้เคยเจอหรือสัมผัสได้คุยกับเค้าจริงๆ ว่าการวางแผน ไอเดียของเค้าเป็นยังไง ซึ่งการที่ไปเรียนที่ UWE น้องจะได้ Benefit ตรงนี้เต็มๆ เลยนะคะ

โอเคทีนี่จริงๆ จบแระในเรื่องของเนื้อหาหนักๆ พริมไม่ได้ลงดีเทลของแต่ละคณะ เพราะไม่งั้นเราคงต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ตรงนี้ถ้ามีน้องที่สนใจอาจจะเป็นสาขาทางด้าน Art หรือว่าอาจจะเป็นสาขาเกี่ยวกับพวก Education อื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่พริมพูดไปก็ติดต่อคุณเกลได้เลย ถ้าคุณเกลมีคำถามเพิ่มเติม ก็ถามพริมเข้ามาเพิ่มเติมได้

ทีนี่ก็มาในเรื่องของเกณฑ์การรับเข้านิดนึงนะคะ อันนี้พริมขอพูดถึงเรื่องภาษาก่อนคือ UWE เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เรามีการ waive ภาษาให้เด็กนักเรียน inter นะคะ จริงๆ เราจะมีมหาวิทยาลัยที่เรา Co อยู่นะคะ ที่ waive ให้เลยประมาณสิบแห่งแต่ว่าตอนนี้ถ้าเด็กมาจาก inter โปรแกรมของมหาวิทยาลัยอื่นที่เราไม่ได้ทำด้วย เราก็จะพิจารณาเป็น case by case ไป เพียงแค่นำ Transcript มาคุย คือต้องมี transcript และก็ดูสาขาวิชาที่เค้าอยากเรียนต่อไป

แล้วก็ถ้าเด็กไม่ได้จบ interมา UWE จะมีที่เรียกว่าสอบ English Test ให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนยังไม่มีโควิด ก็จะสอบที่ออฟฟิศ UWE ที่ทองหล่อเลย เราก็จะจัดสอบกัน 5-6 ครั้ง ซึ่งสอบฟรีแล้วก็คล้ายกับ IELTS มาก หลายๆ คนบอกว่าง่ายกว่า แต่ ณ ตอนนี้ข้อสอบของเราเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบออนไลนหมดเลย ถ้ามีน้องๆ สนใจและอยากจะลองมาสอบดู รอบถัดไปจะเป็นวันที่ 9 เดือน 9 ก็สามารถจองกับคุณเกลได้เนอะ คุณเกลก็ส่งชื่อให้พริมต่อ ซึ่งข้อสอบนี้ดีตรงที่ใช้แทน IELTS ได้ คือจะเข้าตรงก็ได้ ถ้าได้ไม่ถึงแต่อย่างน้อยต้องได้ 5.0 ขึ้นไป น้องสามารถเอาคะแนนนี้มายื่นเรียน Pre-sessional กับเราได้เหมือนกันซึ่ง Pre-sessional ในปีนี้ก็มีการเปลี่ยนรูปแบบกันนิดนึงจากที่เป็นเรียนที่อังกฤษ ปีนี้ก็จะเรียนแบบออนไลน์ แต่ว่าเรามีการจัดทำไปแล้วรอบนึง feedback กลับมาค่อนข้างดีมาก หนึ่งเด็กบอกครูสอนดีมากได้ความรู้เยอะ และสองข้อดีของการเรียนออนไลน์คือค่าเรียนจะไม่สูงเท่ากับการไปเรียนที่อังกฤษ อย่างค่าเรียนของรอบหน้าที่ออกมาก็ 1,500 ปอนด์ ซึ่งมีส่วนลดด้วย ถ้าน้องตัดสินใจเร็วตรงนี้ก็ให้ถามคุณเกลต่อล่ะกันเนอะ

โอเคทีนี้มาในส่วนของ Scholarship คงมีน้องสนใจกันค่อนข้างเยอะ อย่างอันแรกเลยเราจะพูดถึง Partnership Scholarship กันก่อน Partnership ก็คือมหาวิทยาลัยเหล่านี้ Assumption University, Thammasat University, Rangsit University, Stamford University, Prince Songkla University, Bangkok University, Khonkaen University, Mahasarakham University, Sripatum University, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang ที่มีการ sign MOU กับทาง UWE หรืออาจจะมีคอร์ส 3+1 ร่วมกัน เด็กที่จบจากมหาวิทยาลัยทั้ง 9 แห่งนี้ ถ้าน้องสมัครมาและได้ offer ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น unconditional offer นะคะ เป็น conditional offer น้องได้ทุนก่อนเลย 1,000 ปอนด์ นะคะ

ทีนี้ในแต่ละปี UWE ก็จะมี Scholarship ให้สมัครที่แตกต่างกันไป อย่างปีนี้จะมีทุน 2,000 ยกตัวอย่างปีนี้ก็มีน้องที่จบจาก Abac แล้วเค้าอยากสมัครทุนเพิ่มเค้าก็จะได้ด้วย คือไม่ได้บวกกันนะคะ คือจะได้ maximum 2,000 และอย่างปีนี้เราจะส่วนลดสำหรับ NHS ให้ 300 อย่างน้องคนนี้เค้าก็ได้ไป 2,300 ปอนด์ ซึ่งค่าเรียน UWE ไม่ได้สูงมากอยู่แล้วเพราะฉะนั้นก็ถือว่าราคาที่ไปเรียนน่าสนใจมากๆ เลย

โอเคต่อมาเหมาะกับนักเรียนที่ได้ GPA สูงนิดนึงตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป UWE มี Scholarship ให้ 50% เปิดรับสมัครอยู่นะคะคุณเกลเราขอแค่ว่าน้องได้ 3.00 ขึ้นไปแล้วก็จะต้องมี offer ของ UWE แล้วทำการส่งเอกสารสมัครเรียบร้อยแล้ว จริงๆ แล้วเราอยากให้น้องได้เป็น Unconditional ไม่ติดเรื่องภาษา แต่ว่าถ้าบางคนยังไม่ได้สอบก็ไม่เป็นไร ก็สมัครมาก่อนได้ เราก็จะให้น้องทำวิดีโอคลิปเข้ามาสั้นๆ 5 นาทีเป็นภาษาอังกฤษ หัวข้อคือว่าทำไมน้องถึงเลือกเรียนที่ UWE Bristol แล้วก็ในหัวข้อ สมมุติว่าน้องสมัคร MBA ทำไมถึงเลือกเรียนที่ Bristol แล้วก็เพราะอะไรถึงเลือกที่จะไปอยู่ที่ Bristol หัวข้อประมาณนี้ ซึ่งพริมคิดว่าถ้าน้องได้เข้าไปทำการบ้านดูแล้วคิดว่าทำไมถึงอยากเรียนกับเราจริงๆ แล้วก็ศึกษาเกี่ยวกับเมือง Bristol มาเนี้ย เค้าจะทำวิดีโอนี้ได้ แล้วก็ deadline มีการเปลี่ยนนิดนึงคือตอนแรกเนี้ยเป็น 30 ตุลาคม อันนี้เราขยายเวลาเพิ่มในการเปิดรับสมัครให้จะเป็น 15 พฤศจิกายน เป็น deadline ในการสมัครของรอบมกราคมนะคะ

โอเคแล้วก็อันนี้เป็นข่าวดีสำหรับนักเรียนที่เป็นศิษย์เก่าอาจจะเคยจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทแต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นปริญญาตรีแล้วก็แพลนไว้ว่าจะเรียนป.โทต่อเนี้ย ปกติเราจะให้ Scholarship สำหรับเด็กที่เป็น Alumni แค่ 10% แต่ปีนี้เราอัพขึ้นมาให้ถึง 25% ในรอบมกราคมนี้ก็ยังทันนะคะ ถ้าน้องคนไหนที่จบมาอาจจะไปเรียนโปรแกรม 2+2 หรือ 3+1 มาและแพลนว่าอยากต่อป.โทอีกใบนึง ลด 25% นี่ลดลงไปเยอะมากเลย แล้วก็ลองสมัครกันเข้ามานะคะ

อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 3 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ

(ตอน 3) live สดกับคุณพริม International Recruitment จาก University of the West of England เมือง Bristol, UK

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.