094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

(ตอน 3) live สดกับคุณพริม International Recruitment จาก University of the West of England เมือง Bristol, UK

(ต่อจากตอน 2)

UWE: โอเคอันนี้ก็จะเป็นโปร NHS เมื่อกี้ที่คุยกับคุณเกลไปอันนี้ deadline จะเป็นของรอบ Jan แระ น้องที่ตัดสินใจที่จะไป UWE และจ่าย Deposit 3,000 GBP ภายใน กันยายน ก็จะได้ส่วนลดไปเลย auto เพิ่มอีก 300 ปอนด์ อย่าตัดสินใจช้าเนอะ เพราะถ้าเลยไปแล้วจะมาขอที่หลัง 300 ก็ให้ไม่ได้แล้ว

โอเคก็อันนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้ายของเราแล้วก็คือ Degree Program อันนี้ที่ให้ดูจะเป็นรูปของมหาวิทยาลัยในช่วงที่เรามีเทศกาลต่างๆ หรือว่าเป็นพวกคลับต่างๆ UWE เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชมรมเยอะมาก ร้อยกว่าชมรมเลย เพราะฉะนั้นไปอยู่ที่นั่นไม่ต้องกลัวจะเหงาหรือคิดถึงบ้านเพราะว่า เอาจริงๆ แค่เรียนก็ค่อนข้างหนักแล้ว และก็น้องๆ หลายๆ คนก็ทำงานพิเศษอีกถ้าหากใครอยากมีสังคมเป็นเพื่อนต่างชาติเยอะๆ ได้มีเพื่อนจากชาติยุโรป อังกฤษเอง หรือว่าโซนเอเชีย ที่มาจากหลายๆ ชาติ แนะนำให้เข้าชมรมมีให้เลือกเยอะมาก มีให้เลือกเป็นร้อยกว่าชมรมเลยสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ในเว็บไซส์ของเราได้ อย่างงี้ก็จะเป็นชมรมดนตรี น่าจะเป็นคลาสสิก แล้วก็อันนี้ก็จะเป็นกิจกรรม อันนี้ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไรที่กระโดดได้ อย่างงี้ค่ะ น้องก็สามารถเข้าไป join ได้จะมีเพื่อนจากต่างชาติมากขึ้น

โอเค อันนี้เป็นเรื่องของหอพัก เดี๋ยวให้รายละเอียดคร่าวๆ ปกติ UWE เป็นมหาวิทยาลัยที่มีหอพักทั้ง on campus และก็ off campus ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ที่ไหนแล้วแต่สะดวกเลย ค่าหอพักของเราจะเริ่มตั้งแต่ week ละ 120 ปอนด์ จนไปถึง อันนี้หมายถึงหอข้างนอกเป็น studio แพงๆ เลย Maximum ก็ประมาณ 180 ปอนด์ ต่อ week อันนี้จะรวมค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเตอร์เนตให้แล้ว นะคะ หรือถ้าน้องคนไหนไปเป็นกลุ่มที่ Bristol ก็เป็นอีกเมืองนึงที่มีบ้านเช่า ใกล้กับมหาวิทยาลัยด้วยสามารถเดินไปได้ก็มี ก็จะเริ่มที่ week ละ 80 ปอนด์ ถึง 100 ปอนด์ ต้องลองไปหากันดูว่าแบบไหนเป็นแบบที่เราต้องการนะคะ

โอเคอันนี้เป็นรูปหอที่แพงหน่อย อาจจะ start ที่ week ละ 180 ปอนด์ อาจจะเป็นหอข้างนอกเป็น Private accommodation

ส่วนในเรื่องของการเดินทาง น้องๆ ที่ตัดสินใจไปเรียนในปีนี้รวมทั้ง September และ January intake UWE เราจะมี Airport pick up ให้ก็คือน้องจะบินไปลงที่ London ก่อนเราก็จะมีทีม แต่น้องจะต้องลงทะเบียนไปในวันที่เราจัดรถรับส่งให้ น่าจะเยอะอยู่ น่าจะทั้งสัปดาห์ หรือ 5 วัน วันนึงก็หลายรอบ ทีมของเราจะไปรับน้องที่สนามบิน Heathrow แล้วก็ไปส่งที่เมือง Bristol เลย น้องๆ ก็จะไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวลว่าเดินทางยังไง แล้วก็ไปแล้วจะไปถูกไหม เราก็จะมีทีมไปรับให้ แล้วก็รวมถึงในช่วงสัปดาห์แรกเราก็จะมี Welcome week พูดง่ายๆ ก็เหมือนละลายพฤติกรรมนั่นเอง ก็คือให้น้องได้รู้จักทุกอย่างในมหาวิทยาลัยนั่นเอง ก็จะได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงด้วยค่ะ ก็จะได้เจอเพื่อนใหม่แล้วก็อาจจะช่วยแก้ในเรื่องของการ homesick ไปได้ค่อนข้างเยอะ

โอเคทีนี้มาพูดถึงค่าเรียน ค่าเรียนของ UWE นะคะถ้าเป็นป.ตรีกับป.โท จริงๆ ปีนี้ก็จะเริ่มต้นที่ 13,500 ปอนด์ ถ้าเป็น MBA ก็จะเป็น 15,750 ปอนด์ จะไม่เกินนี้ แล้วก็หลักสูตรส่วนใหญ่จะเรียน 1 ปี จะมีแค่บางสาขาเช่นสาขาที่เกี่ยวกับ Art หรือเกี่ยวกับกายภาพ ที่จะเรียน 16 เดือน แต่ส่วนมากก็จะเรียน  1 ปีนะคะ มีน้องถามมาหลายคนค่าหอต่อเดือนก็จะประมาณ 600 – 700 ปอนด์ ส่วนค่ากินอยู่ก็จะประมาณ 400 ปอนด์ ไม่เกินประมาณนั้น แต่ว่าถ้าน้องทานอาหารข้างนอกทุกวันมันก็จะแพงขึ้นไปหน่อย 400 จะเป็นกรณีที่ทำอาหารทานเองด้วยและก็อาจจะมีไปทานนอกบ้านด้วยนะคะ ซึ่งปีนี้เรามี Scholarship เปิดให้สมัครอยู่เรื่อยๆ นะคะ ถ้ามีน้องๆ สนใจบางคนอาจจะไม่ได้ 50% ก็จริงแต่ก็จะมี 2,000-3,000 อย่างงี้ก็ลองสอบถามเข้ามาก่อนได้

โอเคอันนี้ก็จะจบแระในส่วนของที่เป็น Degree Program ทีนี้นอกเหนือจากที่ไปเรียนปริญญาตรีหรือปริญญาโท ปริญญาเอกแล้วน่ะค่ะ ที่มหาวิทยาลัยก็จะมีเปิดคอร์ส summer ด้วย จะเป็น summer สั้นๆ แค่ 2 week อันนี้จะเหมาะกับนักเรียนที่อยู่มหาวิทยาลัยแระ แล้วอยากไปลองดูว่าถ้าแพลนจะเรียนต่อป.โทหรือว่า final year ที่อังกฤษจะเป็นอย่างไงเราก็มีคอร์สตัวนี้เปิดให้นักเรียน นี่เป็นตัวอย่างตารางเวลา ปกติเราจะเปิดเดือน July หนึ่งรอบ Aug หนึ่งรอบ ซึ่งมันก็จะตรงกับ Festival พอดีด้วยนะคะ ในส่วนของสัปดาห์นี้น้องๆ จะได้ทำอะไรบ้าง

ถ้าดูราคาอาจจะตกใจนิดนึงว่าราคาแค่นี้เองเหรอพี่ มันจะมี 2 แพคเกจคือ น้องๆ ทำอาหารทานเอง หาข้าวทานเอง 1,150 ปอนด์ คือรวมหมดแล้วนะคะค่าหอพักค่าไปเที่ยว ที่ไม่รวมมีค่าตั๋วเครื่องบินกับพอคเก็ตมันนี่ของน้องเอง ส่วนอีกราคาจะเป็น 1,450 ปอนด์ รวมค่าอาหารให้ด้วยซึ่งถ้าคิดเป็นเงินไทยประมาณหกหมื่นกว่าบาท ลองดูดีๆ อาจจะถูกกว่าการไปเที่ยวด้วยตัวเองหรือทัวร์ด้วยซ้ำ แล้วก็ได้เรียนด้วย เราก็จะมีสอน 30 ชั่วโมงให้ต่อสองสัปดาห์ แล้วก็ที่สำคัญคือน้องจะได้เป็นห้องพักแบบนักเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท คือไม่ต้องไปอยู่กับโฮสเลยนะคะเป็นห้องพักที่เป็น En-suite ด้วยห้องน้ำในตัว แต่ละคนก็จะได้เป็นห้องพักแบบห้องน้ำในตัวสบายใจมากเลย มีทั้งพวกผ้าห่มผ้าปูผ้าเช็ดตัวมาให้ด้วยที่สำคัญนอกเหนือจากการเรียนแล้วเราก็จะมีทริปพานักเรียนไปเที่ยวเยอะมากไปทั้ง London, Oxford, Gloucester  Gloucester จะเป็นเมืองที่ถ่ายทำ harry potter เป็นสถานที่ถ่ายทำ เราก็จะพาน้องไปดูกันแล้วก็ไป Bath เที่ยวใน Bristol เอง และก็พาไปช้อปปิ้งด้วย ในสองสัปดาห์นี้คุ้มมากเลย ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจแล้ว timeline ตรงกับที่เราเปิดพอดีก็คือ July, Aug ก็ลองไปดูกันนะคะ

York: งั้นถามเรื่อง summer นิดนึงค่ะ ที่บอกว่าเรียน คือไปเรียนภาษาอังกฤษใช่ไหมคะ

UWE: ใช่ค่ะเรียนภาษาอังกฤษหมดเลย น้องๆ ก็จะได้เจอเพื่อนๆ จากในโซนยุโรป หรือเอเชียด้วยกันเอง หรือเพื่อนจากเมืองไทย ไปด้วย ปกติปีนึงเด็กไทยเราจะมีประมาณ 30-40 คนค่ะ แล้วก็น้องเลือกได้ถ้าบางคนสนใจ Business ก็ลง summer business หรือบางคนสนใจในเรื่องของ Art ก็ลง summer ของ art แยกออกไปด้วย เลือกได้ค่ะว่าเค้าสนใจอะไร

York: ก็คือแยกเป็นสาขาแยกเป็นคณะ ถูกไหมคะ

UWE: ใช่ค่ะ ใช่ โอเคก็จะเป็นประมาณนี้แล้วก็ อันนี้ก็จะเป็นที่ Oxford และอันนี้ที่เราพาน้องไปเที่ยวนะคะ อันนี้ที่ถ่ายทำ harry potter แต่พริมว่าตอนนี้เนื่องจากมันมีแค่รอบ July กับ Aug เพราะฉะนั้นมันน่าจะตอบโจทย์กับนักเรียนที่เค้า น่าจะเป็นเด็กที่เรียนมหาวิทยาลัย inter program มากกว่า โอเคงั้นอันนี้พริมก็มาถึง Conclusions แระว่าเหตุผลอะไรหรือปัจจัยอะไรที่นักเรียนสมควรเลือกเรียนที่ UWE นะคะก็ หนึ่งเลยคือ TEF Gold อันนี้ก็ค่อนข้างที่จะ อยากให้น้องๆ ใช้เป็น standard ในการเลือกมหาวิทยาลัย สองคือเรื่องของเมืองเพราะว่าเราต้องอยู่ที่นั่นอย่างน้อยก็ปีนึง เมืองมีผลสำคัญมากต่อเรื่องของสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ และเรื่องสนับสนุนการเรียนรู้ แล้วก็เรื่องของการ support นักเรียน UWE ค่อนข้างจะดูแลนักเรียนในเรื่องของการทำงานและหางานต่อค่อนข้างดีมากนะคะ

York: เป็นไงบ้างคะน้องๆ ได้ฟังข้อมูลที่คุณพริมให้มาค่อนข้างเยอะมาก แล้วก็พูดครอบคลุมหมดเลย ในเรื่องของทุกอย่างเลย เท่าที่ฟังแล้วยังอยากไปเรียนเองเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ คือเมืองก็ถือว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่แล้วก็มีหลักสูตรวิชาให้เลือกเรียนมากถึง 600 สาขาวิชาเลย แล้วก็มี support ในเรื่องของงานของกิจกรรมอีกมากมายเลย ถ้าน้องๆ ไปเรียนที่นี่คือได้ครบทุกอย่างจริงๆ อันนี้ขอถามเพิ่มเติมเผื่อน้องๆ นะคะ เราได้รู้เรื่องของหลักสูตร ของหลายๆ อย่างไปแล้ว ขอเจาะลึกในเรื่องของค่าครองชีพแล้วกันเนอะ ค่าครองชีพคุณพริมบอกว่าค่าหอพักคือ start เดือนละ 600-700 ปอนด์ ต่อเดือน เดี๋ยวลองคำนวนเป็นเงินไทยในน้องดูแล้วกันนะคะ อ่ะค่าที่พักตีไป 600 ปอนด์ ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปประมาณเท่าไรคะ

UWE: ประมาณ 400 ค่ะคุณเกล จริงๆ เด็กที่ไปค่าห้องพักรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ประมาณ 1,000 ปอนด์

York: อ่อ 1,000 ปอนด์ก็อยู่ที่ประมาณ สี่หมื่นต้นๆ สี่หมื่นนิดๆ แล้วแต่ค่าเงิน ถ้าค่าเงินถูกกว่านี้อาจจะลดลงมามากกว่านี้อีกด้วย ก็ถือว่าไม่แพงนะ โอเคอยู่ น้องๆ ก็ยังสามารถทำงาน part-time ระหว่างเรียนได้ด้วยนะคะ แล้วที่ Bristol การหางาน Part-time นี่หายากไหมคะ

UWE: คือพูดแบบให้ข้อมูลจริงๆ เลยเนอะ ถ้าเป็นที่ Bristol งานร้านอาหารหาง่ายมาก ร้านอาหารไทยเยอะมาก พริมไปสัมภาษณ์นักเรียนของเราที่เรียนอยู่ เค้าบอกว่าพี่พริมมาเลย ถ้าคนไหนอยากทำงานคือเค้ารับนักเรียนไทยตลอด อันนี้พูดถึงงาน part-time เนอะ งานร้านอาหาร ข้อดีคือได้ทานอาหารไทย ส่วนมากจะฟรีด้วย แทนที่จะไปจ่าย 9-10 ปอนด์เพื่อซื้ออาหารไทย ก็คือจะได้กินฟรีด้วย สองงานร้านอาหารค่อนข้างจ่ายดีเพราะมันจะมีทิปที่ร้านอาหารอีก ทำงานที่ประเทศอังกฤษจะเริ่มที่ 7.25 ปอนด์ต่อชั่วโมง สัปดาห์นึงน้องได้ทำได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อันนี้ในช่วงเปิดเทอม อันนี้ไม่รวมทิปต่างหากนะคะ ถ้าช่วงปิดเทอม น้องทำได้ไม่จำกัดชั่วโมงเลย อย่างน้อยพริมมองว่าเดือนนึงถ้าช่วงเปิดเทอมก็ไม่ต่ำกว่า 400-500 ปอนด์ ก็คือครึ่งนึงของค่าใช้จ่าย

York: ก็ถือว่าช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยนะคะ ครึ่งต่อครึ่งเลย แล้วการเดินทางในเมืองเป็นอย่างไรบ้างคะจากหอพักไปมหาวิทยาลัย หรือจากหอพักไปแหล่งช้อปปิ้ง นี่คือมันเดินได้ไหมคะ หรือมีรถไหมคะ

UWE: ปกติอยู่ที่ว่าถ้าในมหาวิทยาลัยเองจากหอพักไปเรียน เดินได้เลยสะดวกมาก รอบแคมปัสน้องเดินได้อากาศก็ดี ออกกำลังกายไปในตัว ถ้าสมมุติว่าอยู่ในมหาวิทยาลัยและอยากเข้าเมืองก็จะมีรถบัส ป้ายรถบัสก็อยู่ในมหาวิทยาลัยเลย ขึ้นรถบัสปุ๊ป ก็คือเขาจะขึ้นมอเตอร์เวย์ตรงยาวมาเลย ใช้เวลาประมาณถ้ารถไปติดก็ประมาณ 12-15 นาที ค่ารถบัสก็เป็นเรทของนักเรียนค่อนข้างถูก น้องส่วนมากที่เรียนปริญญาโทเค้าก็จะเลือกที่จะอยู่ข้างนอกมากกว่า เพราะว่า หนึ่งปริญญาโทไม่ได้เรียนทุกวัน แล้วก็สองอาจจะสะดวกกว่ากับการทำงานพิเศษ แล้วพี่ว่าเด็กป.โท อาจจะ hangout สนุกกว่าอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย

York: ก็ขึ้นอยู่กับว่าน้องอาจจะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย หรือว่าในเมือง น้องสามารถเลือกได้ตาม lifestyle ของตัวเองเลยนะคะ โอเคทีนี้ค่าเรียนเมื่อกี้ที่คุณพริมบอกมาก็จะอยู่ที่ 13,500 ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็จะอยู่ที่ประมาณห้าแสนกว่าบาท เท่านั้นเองอันนี้ยังไม่ได้หักเรื่องทุนส่วนลดที่จะได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องทุน ก็จะได้เฉพาะมหาวิทยาลัยที่เป็น partner ใช่ไหมคะ

UWE: ถ้าเป็นทุน Auto คือใช่ค่ะ แต่อย่างทุน 50% หรือทุน 2,000 ที่มีแคมเปญไป จากที่ไหนก็สามารถสมัครได้หมดเลยค่ะ เราอาจจะมีทุน 2,000 ให้สมัครอีกรอบนึงสำหรับเด็กรอบ Jan ด้วยค่ะ

York: หลักเกณฑ์ในการให้ทุน 2,000 มีอะไรบ้างคะ ที่ผ่านมาน่ะค่ะ

UWE: หลักเกณฑ์เดียวกันเลยค่ะ คลิปวิดีโอเหมือน 50% เลยค่ะ

York: อ่อก็คือน้องต้องสมัครเพื่อให้ได้ offer มาก่อน แล้วค่อยยื่นสมัครทุน ใช่ไหมคะ แต่ถ้าเป็นทุน auto คือจะเป็นน้องที่จบมาจากมหาวิทยาลัย Partner ของ UWE แต่จริงๆ มหาวิทยาลัย partner ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะนะคะ ที่แจ้งมาเมื่อกี้นี้ ถ้าน้องๆ สนใจก็สามารถสมัครได้เลย ก็ได้ทุนไปเลย 1,000 ปอนด์โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย เดี๋ยวพี่คำนวณให้ดูนะคะ ค่าเรียน 13,500 ปอนด์ หักลบ 1,000 ก็จะเหลือ 12,500 ก็เป็น ห้าแสนต้นๆ

UWE: ก็ถ้ารวมค่าเรียนค่าครองชีพ ของ UWE ไม่เกิน 1 ล้านค่ะ เรียนปริญญาโทได้

York: อ่อ อยู่ใน Budget ไม่เกิน 1 ล้านนะคะ อันนี้ยังไม่รวมเงินที่เราทำงานพิเศษและได้กลับมา ถือว่าคุ้มมากค่ะ

UWE: จะได้กลับคืนมาทั้งหมดเลย ถ้าเราอยู่ต่อและทำงานที่อังกฤษ รายได้ดีค่ะ

York: อย่างที่คุณพริมพูดไปเมื่อสักครู่นี้น่ะค่ะ ถ้าเกิดน้องๆ เรียนที่อังกฤษ หลังจากที่เรียนจบแล้วก็สามารถขอวีซ่าเพื่อทำงานอยู่ต่อได้อีก 2 ปีเลย

UWE: อย่างน้อย 2 ปี

York: ใช่ค่ะ อย่างน้อย 2 ปี ถือว่าคุ้มค่ามากในการไปเรียนที่นี่เนอะ เมื่อกี้พูดถึงเรื่อง scholarship เรื่องค่าใช้จ่ายไปแล้วเนอะ ทีนี้พูดถึงเรื่องการสมัครบ้าง ก็เมื่อกี้คือมีทุน Auto 1,000 มีทุนที่ต้องสมัคร 2,000 ปอนด์ กับ 50% นอกจากนี้ยังมีเงินที่ช่วยของค่า NHS คือเป็นประกันสุขภาพที่น้องๆ จะต้องจ่ายอยู่แล้วตอนทำวีซ่า อันนี้คือช่วยอยู่ที่ 300 ปอนด์นะคะ อันนี้เงื่อนไขก็คือน้องๆ จะต้องจ่าย Deposit ภายในเดือน Sep ไม่เกินสิ้นเดือนกันยา สำหรับน้องๆ ที่จะไปรอบ Jan นะคะ เพราะฉะนั้นน้องๆ ก็เท่ากับว่าได้ทุน 1,000 แล้ว แล้วก็ยังได้เพิ่มอีก 300 ปอนด์อีกด้วย ในเรื่องของการสมัครล่ะค่ะ ถามนิดนึง การสมัครก็คือว่าภาษา อย่างที่บอกว่าทาง UWE เปิดสอบภาษาของ UWE เอง ก็ถ้าเกิดน้องๆ คนไหนสนใจมาแจ้งกับพี่เกลได้เลยนะคะ หรือว่าโทรแจ้ง York ได้เลยในเรื่องของรอบวันให้ว่ามีวันไหนบ้าง

UWE: ที่ confirm แล้วของรอบถัดไปคือวันที่ 9 กันยายน ก็คนไหนพร้อมก็สอบได้เลยค่ะ จริงๆ การสอบนี้ น้องคนไหนที่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้านไม่ต้องมาที่ออฟฟิศ ก็สอบได้เลย และก็ฟรีค่าใช้จ่าย

York: เห็นไหมคะว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ เรียนที่ UWE นะคะ ทีนี้ปกติทั่วๆ ไป ถ้าน้องมีผล IELTS แล้วมาสมัครที่

UWE ปกติรับผลอยู่ที่เท่าไรคะ ในการรับตรง

UWE: ถ้าเป็นปริญญาโท overall 6.5 แต่ละ part ไม่ต่ำกว่า 5.5 นะคะ ถ้าเป็นปริญญาตรีมี 2 ส่วนคือส่วนที่ดู overall 6.0 ส่วนมาก ถ้าคณะยากๆ หน่อยก็จะเป็น 6.5 นะคะ คือจะไม่เหมือนกัน คือน้องๆ จำง่ายๆ เลยคือปริญญาตรี 6.0 ปริญญาโท 6.5

York: แล้วก็ถ้าเกิดว่า IELTS น้องไม่ถึงได้ 5.5 ทาง UWE ก็จะมีในเรื่องของ pre-sessional ให้คือเท่ากับว่าน้องๆ ไม่ต้องไปสอบ IELTS ใหม่แล้ว ก็คือเอาตัวนั้นแหละ แล้วก็เรียน Pre-sessional กับ UWE

UWE: ถูกต้องค่ะ จริงๆ แนะนำด้วย ถึงแม้ว่าคะแนนเราจะดีแล้ว แต่คอร์ส pre-sessional ค่อนข้างจะช่วยนักเรียนในการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเรียนปริญญาโทจริงๆ ยิ่งถ้าเราเรียนหลักสูตรไทยมาตลอด 4 ปี อย่างงี้น่ะค่ะ แล้วการที่เราไปเรียนโท บางคนเข้าไปเรียนป.โท เลยเค้าก็จะช็อคเหมือนกัน เหมือนปรับตัวไม่ได้ แต่ถ้าไปเรียนก่อนสัก 10 สัปดาห์ จะทำให้ได้ปรับเรื่องภาษา การอยุ่อาศัย เวลา เหมือนเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้น แล้วก็ช่วยในการทำ dissertation ตอนจบด้วย เขาก็จะสอนว่าทำ Research ทำอย่างไง การหาข้อมูล การทำ Reference คือที่นั่นเค้าจะซีเรียสมาในการเขียน Reference เราไม่สามารถเขียนอะไรขึ้นมาได้ถ้าไม่มีการอ้างอิง ถ้าเราไม่เข้าใจตรงนี้แล้วเราไม่เคยเรียน Pre-sessional บางทีเด็กก็จะมีปัญหาเหมือนกันว่ามันต้องทำยังไง เขาจะไม่ทราบ แต่ตัว pre-sessional course จะสอนให้รู้หมดเลย ปีนี้ทุกอย่างจะปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ คือจะให้น้องมาเรียนในรูปแบบออนไลน์แทน

York: แล้วถ้าน้องผล IELTS ผ่านแล้ว แต่อยากเรียน pre-sessional เรียนได้ไหมคะ

UWE: เรียนได้เหมือนกันค่ะ อันนี้ยิ่งดีเลย เรามีน้องที่ไปกับเรารอบ Sep นี้แล้วเค้าสอบได้ 6.5 คะแนนดีมากแล้วเค้าก็เริ่มเรียนแล้ว เหมือนเค้าอยากเตรียมความพร้อมก่อนว่าถ้าจะไปเรียนจริงๆ นี่ บางทีเรื่องของ academic มันก็เหมือนแค่เฉพาะในข้อสอบก็ช่วยได้เยอะมากเลย แนะนำให้เรียนเหมือนกันถ้าน้องมีเวลานะคะ

York: ได้เลย แล้วก็ถ้ากรณีที่น้องๆ จบ inter มาทาง UWE สามารถ waive ภาษาให้ได้ไหมคะ

UWE: Waive ให้ได้ค่ะก็จะเป็นมหาวิทยาลัยที่เรา Co อยู่แล้วอันนี้ waive ให้ได้แน่นอน อย่างเช่นอัสสัมชัญ ธรรมศาสตร์ มหิดล อันนี้ยกตัวอย่างจริงๆ จะมีมากกว่านี้ แล้วก็มหาวิทยาลัยที่เรายังไม่เคยทำก็สามารถส่ง Transcript มาดูกันก่อนได้ ถ้าน้องเกรดดีเราอาจจะสัมภาษณ์แค่ speaking ถ้าน้องไม่มีปัญหาก็ waive ให้ได้ คือทีนี้ก็ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อประโยชน์ของน้องเอง เราไม่อยากให้ไปแล้วติดปัญหาเรื่องของภาษาค่ะ ถ้าบางคนไม่แน่ใจจริงๆ ก็สอบ UWE Test ก่อนได้ เพราะว่ายังไงก็สอบฟรี อยู่แล้ว

York: แล้วการที่ waive IELTS มีกำหนดไหมคะว่าน้องต้องจบมาไม่เกินกี่ปีถึงจะสามารถ waive ได้

UWE: 2 ปีค่ะ

York: ก็ขอไม่เกิน 2 ปี

UWE: ใช่เพราะถ้าจบมาเกินกว่านั้นแล้วไม่ได้ทำงานในองค์กรของฝรั่ง ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ มันก็สามารถลืมได้นะ กลัวเดี๋ยวตอนไปเรียนจะมีปัญหา ต้องบอกว่า UWE ในยุคนี้เรียนยากกว่าเมื่อก่อนด้วยค่ะ น้องก็ต้องเตรียมความพร้อม

York: แต่ถ้าเกิดว่าน้องจบมา 3-5 ปี แต่ว่าเค้าทำงานใช้ภาษาอังกฤษมาด้วยนะ สามารถ waive ได้ไหมคะ  อาจจะให้น้องแค่สัมภาษณ์

UWE: อย่างน้อยต้องสัมภาษณ์ speaking test ก่อน ถ้าสัมภาษณ์แล้วดูแบบคล่องมากเก่งมาก ก็ต้องมีจดหมายรับรองมาว่าทำงานในองค์กรภาษาอังกฤษมาใช้ภาษาอังกฤษเยอะ แต่แนะนำอยากให้ลองสอบทั้งหมดเลยค่ะคือตอนทำงานจริงๆ เราอาจจะไม่ได้ใช้ทุก part ที่จำเป็นในการเรียน

York: ได้เลยค่ะ มีน้องๆ ถามมาเพิ่มเติมแล้วตอนนี้ ถ้าน้องไปเรียนรอบ Jan ลักษณะการเรียนมันยังจะเป็นออนไลน์อยู่ไหมคะ หรือเรียนแบบ face to face เลย

UWE: จริงๆ ตอนที่เราออกเหมือน Policy คอร์สการเรียนการสอน เริ่มแรกเลยเราให้เป็น face to face เลย แต่ความจริงมันอาจจะมีสัก 20-30% ที่อาจจะมีออนไลน์ผสมบ้าง แต่จะไม่เกินนี้นะคะ แล้วก็ ถ้าเป็นคลาสใหญ่ๆ ก็อาจต้องปรับเป็นออนไลน์ ตอนนี้ที่อังกฤษยังมี social distancing อยู่เราไม่สามารถจับเด็กมาเรียนในห้องแออัดได้ จะต้องมีการกระจาย คลาสนึงอาจจะย่อยลงเหลือ 15 คนค่ะ ก็จะเป็นประมาณนั้นแทน ยังต้องมีบางคลาสที่ใช้รูปแบบออนไลน์ผสมบ้าง แต่จะไม่เยอะ ประมาณ 20-30%

York: ก็เท่ากับว่ามีออนไลน์ แค่ 20-30% ที่ผสมกับ face to face

UWE: แต่ถ้าลองดูจากสถานการณ์คร่าวๆ ถ้าสักเดือนกุมภา มีนาคม ไปแล้วสถานการณ์โควิดดีขึ้นเยอะมาก มหาวิทยาลัยก็คงจะกลับมาเป็น face to face ปกติได้ ไม่มีปัญหาซึ่งดูทรงแล้วก็น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน ยังไงถ้าน้องไปเรียนรอบมกราคมไม่น่ากังวลเท่าไรค่ะ

York: น้องๆ ก็สบายใจได้นะคะ ยังไงก็เป็น face to face อย่างน้อย ๆ ก็มีออนไลน์แค่ 20-30% หรือถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็อาจจะเป็น face to face ได้ 100% มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์อีกทีนึง แล้วก็ฝากอีกนิดนึงคือ summer program เห็นเมื่อกี้คุณพริมให้ดูคือจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็น้องๆ สามารถที่จะมีประสบการณ์ทดลองเรียนในมหาวิทยาลัย น้องๆจะมีประการณ์เรียนใน UWE ร่วมกับเพื่อนๆ ต่างชาติด้วย ในราคาที่ถูกมากเลย เมื่อกี้ลองคำนวณดูแล้วค่ะ ถ้ารวมอาหารมันก็จะอยู่ที่ 1,450 ปอนด์ เท่านั้นเองประมาณ หกหมื่นบาท อาจจะไม่ถึงด้วย ถ้าค่าเงินลงกว่านี้ ถือว่าคุ้มมากๆ เลย 2 สัปดาห์ เปิดรอบ July กับ Aug ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจติดต่อ York ได้เลย หรือว่าสนใจเรียนต่อที่ UWE ติดต่อได้เลย วันนี้ต้องขอบคุณคุณพริมมากเลยที่สละเวลามาพูดคุยกับเราวันนี้

UWE: ยินดีค่ะ ขอบคุณทาง York ด้วยนะคะ

York: ค่ะ แล้วก็ขอบคุณน้องๆ ทีติดตามชมนะคะ สวัสดีค่ะ

หากน้องๆ สนใจเรียนต่อระดับปริญญาตรี, โท และเอก กับมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของประเทศอังกฤษ University of the West of England สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ

 

 

 

 

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.