094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

(ตอน 1) live สดกับพี่ยุ้ย จากสถาบัน British Study Centres ถึงหลักสูตร pathway สู่มหาวิทยาลัยในเครือ NCUK ประเทศอังกฤษ

วันนี้พี่ยุ้ย มาให้ข้อมูลแบบละเอียดสุดๆ ทั้งแนะนำหลักสูตร pathway, ค่าเรียนและค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาเรียน และตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ   คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)

British Study Certres เป็นสถาบันสอนภาษาที่ตั้งมานานกว่า 80 ปี และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นสถาบันภาษาระดับ Top 10 ของประเทศอังกฤษ

British Study Certres มีแคมปัสในประเทศอังกฤษทั้งหมด 7 แคมปัสในเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่เต็มไปความตื่นเต้นมากที่สุดของประเทศอังกฤษ คือ London, Brighton, Oxford, Manchester, York Edinburgh (Scotland)  และ  Dublin (Ireland)

และล่าสุด British Study Certres ได้ร่วมมือกับ  NCUK ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดย 11 มหาวิทยาลัย และในตอนนี้ได้ขยายมาเป็น 16 มหาวิทยาลัย เปิดสอนทั้ง Foundation International Year One และ Pre-Master Program ซึ่ง NCUK นี้เปิดทั้งหมดใน 25 ประเทศ ทั้งหมด 65 center ใน 25 ประเทศ จึงถือเป็นองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือมาเป็นเวลายาวนานแล้ว

 

York: สวัสดีค่ะพี่เกลจาก York นะคะวันนี้เราจะมา Live สดพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการเรียนต่อปริญญาตรีและปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษนะคะหรือว่า UK และวันนี้ก็เห็นว่าพี่เกลไม่ได้มาคนเดียวนะคะมีแขกรับเชิญมาด้วยนะคะ ขอแนะนำแขกรับเชิญก่อนเลยค่ะ

York: สวัสดีค่ะพี่ยุ้ย

British Study Centres : สวัสดีค่ะพี่เกล

York: เดี๋ยวให้พี่ยุ้ยแนะนำตัวก่อนเลยค่ะ

British Study Centres : ได้เลยค่ะพี่ชื่อพี่ยุ้ยนะคะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน British study centres และก็ทำงานอยู่ที่ประเทศไทยเนอะ ถึงแม้ว่าจะทำงานกับโรงเรียนสอนภาษาที่อังกฤษแต่ก็คือเบสที่ประเทศไทย เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดสนใจเรียนก็ติดต่อที่ York ได้เลยนะคะเพราะ York ก็เป็น Partner กับโรงเรียน BSC ค่ะแล้วก็พี่ยุ้ยก็อยู่ในแวดวง Education มา 10 กว่าปีแล้วค่ะ

York: จริงๆ แล้วคือ British study centres หรือเรียกสั้นๆ ว่า BSC เราจะรู้จักกันในนามของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษนะคะ แต่ว่าวันนี้เราจะไม่ได้พูดคุยเรื่องของโรงเรียนภาษาอังกฤษนะคะ แต่เราจะพูดถึงอีกหลักสูตรนึงเนอะที่เป็นหลักสูตรของ BSC กันนะคะทีนี้หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักเนอะว่า BSC คืออะไรเดี๋ยวให้พี่ยุ้ยแนะนำดีกว่า

British Study Centres : ได้เลยด้วยความยินดีค่ะ British study centres นะคะเปิดมาประมาณ 80 กว่าปีแล้วแล้วก็เป็นโรงเรียนสอนภาษาที่มีชื่อเสียงเรียกว่าเป็นในระดับ Top 10 ของใน UK เลยนะคะแล้วก็โรงเรียนภาษา BSC เนี่ยมีทั้งหมด 7 สาขาด้วยกันนะคะทั้ง UK และใน Ireland ก็คือเริ่มต้นจากทางใต้เลยตั้งแต่ Brighton มาเป็น London, Oxford, Manchester, York และอีกที่นึงก็คือที่ Scotland ที่  Edinburgh และ Ireland ก็คือที่ Dublin นะคะ เรามีสอนหลากหลายมากเลยทั้งภาษาอังกฤษทั่วไป IELTS นะคะแล้วก็เรารับนักเรียนตั้งแต่ 8 ขวบเลยเด็กมากนะคะตั้งแต่ Young learner เลยนะคะแล้วก็ตอนนี้ก็มีคอร์สเรียนออนไลน์นะคะนอกเหนือจากไปเรียนที่อังกฤษแล้วนะคะ

York: และก็วันนี้อย่างที่เราเกริ่นไปสักครู่แล้วว่าเราจะมาพูดถึงหลักสูตร University Pathway Program นะคะเดี๋ยวให้ทางพี่ยุ้ยแนะนำดีกว่าค่ะ

British Study Centres : ได้ค่ะ ในส่วนของ British study centres นะคะได้มาทำความร่วมมือกับ NCUK น้องๆ หลายคนอาจจะยังสงสัยเนอะพี่เกลว่า NCUK คืออะไร NCUK อ่ะค่ะเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดย 11 มหาวิทยาลัย

British Study Centres : 11 มหาวิทยาลัยนี่คือเป็นสมัยแรกๆ เลยตอนนี้เขาได้ขยายมาเป็น 16 มหาวิทยาลัยจัดตั้งมานานมากเลยค่ะตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้วนะคะเปิดสอนทั้ง Foundation International Year One แล้วก็มีทั้ง Pre-Master Program ซึ่ง NCUK นี้ค่ะก็คือเปิดทั้งหมด 25 ประเทศด้วยกัน ทั้งหมด 65 เซนเตอร์ใน 25 ประเทศ เพราะฉะนั้นเนี่ยเป็นองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือมานานแล้วและก็มีเปิดสอนในหลายๆ ประเทศเลยนะคะ ปีๆ นึงเนี่ยทาง NCUK รับนักเรียนประมาณ 30,000 คนเลยทีเดียวค่ะพี่เกลเพราะฉะนั้นเนี่ยอย่างที่แจ้งให้ทราบว่าก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักและก็มีชื่อเสียงนะคะในส่วนของ BSC เนี่ยได้มาทำความร่วมมือกับ NCUK ปีหน้าเป็นรุ่นที่ 3นะคะแล้วก็เนื่องจากว่าตอนนี้ทาง BSC ตอนแรกเริ่มที่ทำงานกับ NCUK เป็น Foundation นะคะแล้วก็ปีหน้าเป็นรุ่นที่ 3 ของ Foundation เนี่ยมันไปได้ดีเลยทีเดียวก็เลยมาเปิดเป็น Pre-Master เพิ่มด้วยก็เดี๋ยวเราจะพูดในคำถามถัดไปนะคะ

York: ใช่ค่ะเดี๋ยวเราจะแนะนำให้รู้จักว่า Pre-Master คืออะไร และ Foundation คืออะไรจำเป็นต้องเรียนมั้ยนะคะเดี๋ยวเราะอธิบายให้ฟังเลยให้น้องเห็นภาพเลยว่าถ้าจะไปเรียนที่อังกฤษเนี่ยค่ะตัว Foundation คืออะไรจำเป็นต้องเรียนมั้ย หรือ Pre-Master คือต้องเรียนได้มั้ยหรือเรียนปีเดียวได้มั้ย หรือต้องเรียนกี่ปีค่ะเดี๋ยวจะอธิบายในส่วนของรายละเอียดให้นะคะ เมื่อสักครู่คือว่าพี่ยุ้ยพูดเรื่องของ NCUK น้องๆ อาจจะสงสัยว่ามหาลัยที่ว่าที่อยู่ในกลุ่มของ NCUK อ่ะค่ะมีที่ไหนบ้างเดี๋ยวเราจะแนะนำหลักๆ เป็นที่รู้จักดีกว่าเนอะ

British Study Centres : ได้เลยค่ะน้องคงเห็นข้างหลังนะคะตรงนี้นะคะในส่วนของมหาวิทยาลัยหลักๆ เลยที่มีชื่อเสียงกับคนไทยเนอะก็จะมี University of Manchester, University of Bristol นะคะ

มี Queen Mary University of London สำหรับคนไหนที่อยากเรียนใน London อะไรอย่างนี้นะคะแล้วก็ทางเหนือๆ ก็แจ้งไปแล้วว่าเป็น University of Manchester นะคะ

University of Leeds นี่ก็เป็น U Top เหมือนกันลงมาหน่อยก็เมื่อกี้เลยนะคะ Bristol หรืออาจจะเป็น University of Kent นะคะแต่ใครอยากมีแสงสีเสียงก็ Queen Mary University of London ซึ่งอันนี้เป็นแค่คร่าวๆ นะคะยังมีมหาวิทยาลัยอีกเป็น 10 เลยเพราะว่าจริงๆ แล้วอ่ะค่ะพี่เกลทาง NCUK ไม่ได้ทำงานกับมหาวิทยาลัยที่อังกฤษอย่างเดียวทาง NCUK ได้ทำงานกับมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลียด้วย นิวซีแลนด์นะคะ แล้วก็อเมริกาด้วย

เพราะฉะนั้นจะไม่ได้แบบเป็นแค่ใน UK อย่างเดียว แต่ที่พี่ยุ้ยพูดไปเบื้องต้นเป็นมหาวิทยาลัยที่ร่วมก่อตั้งหลักสูตรนี้ขึ้นมานะคะ

York: แสดงว่าก็ผ่านเนอะ น้องๆ ที่สงสัยว่า เอ๊ะจะเรียนมหาลัยไหนดีอย่างนี้อ่ะค่ะ เราก็คิดว่าตัว Program น่าจะตอบโจทย์นะคะทีนี้มาถึงตัว Program บ้างดีกว่าค่ะ ถามพี่ยุ้ยก่อนว่า Foundation คืออะไร

British Study Centres : อ่ะ Foundation อ่ะค่ะ เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับน้องๆ นักเรียนที่อาจจะไม่อยากเรียน A Level จริงๆ A Level กับ Foundation เนี่ยมันเป็นวุฒิที่เหมือนกันเทียบเท่าได้เหมือนกันแต่ A Level ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยพี่ยุ้ยจะบอกว่าเหมาะกับนักเรียนที่ค่อนข้างเป็น Local มากกว่าแต่เด็ก International หลายคนสมัยก่อนทีึ่ไม่มี Foundation เนอะเขาก็เรียน A Level เนี่ยแหละเพื่อที่จะผ่านไปยังมหาวิทยาลัยแต่ Foundation ทาง UK ก็เหมือนเอ๊ะแล้วทำไมเด็กๆจะต้องเรียน 2 ปีล่ะเพื่อที่จะได้จบ พี่ยุ้ยขอเรียกสั้นๆ ว่าจบ ม.ปลายนะคะ ทำไมต้อง 2 ปีล่ะทำไมไม่คิดค้นหลักสูตรอะไรเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนนักเรียนต่างชาติเหล่านี้นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยทาง UK เขาก็เลยมีการคิดค้นซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าหลักสูตร Foundation ของ institution ต่างๆ เนี่ยก็จะมีตั้งแต่ 9 เดือนไปจนถึง 10 เดือนเลยนะคะแต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 9 เดือนซึ่งก็จะรวดเร็วกว่า A Level เพราะปกติ A Level 2 ปีเนอะเกลเนอะก็เลยเกิดเป็นหลักสูตรนี้ขึ้นมาแล้วก็เหมาะสำหรับเด็กต่างชาติด้วยเพราะว่าถูกคิดค้นมาที่จะ Support เด็กต่างชาติโดยเฉพาะ

York: น้องๆ อาจจะยังงงๆ ว่า Foundation คืออาจจะยังนึกภาพไม่ออกจริงๆ แล้ว

ต้องบอกก่อนนะคะว่าจริงๆ แล้วโดยปกติอ่ะค่ะ ในเด็กอังกฤษที่เขาเรียนมาช่วงมัธยมดีกว่าเนอะจะได้เทียบกันได้ง่าย เขาจะเรียนทั้งหมด 13 ปี Year 13

ขณะที่ประเทศไทยเราเนี่ยเรียนแค่ 12 ปี เพราะฉะนั้นเนี่ยพอเด็กอังกฤษเขาจบ Year 13 และช่วง Year 13 เนี่ยเป็นช่วงที่เขาเรียน A Level เนอะพอเขาจบเนี่ยก็สามารถเข้าป.ตรีได้เลยแต่สำหรับเด็กไทยอย่างเราเนี่ยจะเรียนแค่ 12 ปีเท่านั้นเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราจะเข้าไปเรียนที่ประเทศอังกฤษอ่ะค่ะเราไม่สามารถที่จะเข้าไปเรียนปี 1 กับเขาได้เพราะฉะนั้นมันจะต้องมีไปเรียนคหลักสูตรตัว Foundation เพื่อจะทำการปรับพื้นฐานในเรื่องของภาษาและทุกอย่าง

British Study Centres : อ่าถูกต้องสไตล์การเรียนการสอนด้วย

York: ก็คือปรับวิชาความรู้ของเราก่อน

British Study Centres : ถูกต้อง ให้แมชกับการเรียนที่นู่น

York: ใช่ก่อนที่เราจะเข้าไปเรียนปี 1 ของที่อังกฤษค่ะเพราะฉะนั้นหลักสูตร Foundation ถ้าน้องๆ จบ ม.6 จากประเทศไทยไปคือทุกคนค่ะจะต้องเรียนหลักสูตร Foundation ก่อนยกเว้นน้องบบางคนที่จะไปเรียนสายวิทย์เนอะ อาจจะเป็นเกี่ยวกับทางด้านวิศวะ เป็นหมอ ซึ่งพวกนี้อาจจะเรียนแค่ Foundation ไม่ได้ อาจจะต้องเรียน A Level เพราะว่าส่วนใหญ่ถ้าน้องบางคนที่จะเข้ามหาลัยที่แบบ Top มากๆ

British Study Centres : Oxford Cambridge ต่างๆ นะคะ

York: ใช่ก็ต้องเรียนเป็น A Level กันนะคะ

British Study Centres : เพราะฉะนั้นหลักสูตร Foundation ก็คือเหมาะกับนักเรียนที่เป็นต่างชาติเนอะหรือนักเรียนไทยอย่างเรานี่ค่ะ ที่ไปเรียนก็จะต้องเรียน Foundation ก่อน จริงๆ ถามว่าเด็กไทยเรียน A Level ได้มั้ยพี่เกล ก็เรียนได้แต่มันต้อง 2 ปี

York: เรียนได้แต่ถ้าน้องไม่ได้จะไปเข้า U Topหรือน้องไม่ได้จะไปเรียนด้านสายวิทย์ของเขา ก็เรียนเป็น Foundation ก็ได้เนอะ

British Study Centres : ใช่รวดเร็วกว่า

British Study Centres : เพราะว่าใช้เวลาแค่ 1 ปีเท่านั้นเองแล้วก็สามารถที่จะเข้าเรียนปี 1 ได้เลยนะคะ

York: ทีนี้เราก็รู้จักในเรื่องของ Foundation แล้วเนอะพอเป็นไอเดียว่า Foundation คืออะไร ทีนี้ต้องถามว่าแล้วเด็กไทยจะไปเรียน Foundation ต้องสตาร์ทเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่ดีคะ

British Study Centres : อ่ะโอเคในส่วนของการเรียน Foundation ของ BSC กับ NCUK อ่ะค่ะเรารับนักเรียนตั้งแต่อายุ 17 ปีก็คือ ม.5 เลยนะคะพี่เกล เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าการเรียนป.ตรี ที่อังกฤษเนี่ยใช้เวลาแค่ 3 ปีเท่านั้นเพราะฉะนั้นน้องๆคนไหนที่เรียนจบ ม.5 อายุ 17 ปี เรียบร้อยนะคะไปได้เลยค่ะไปเรียน Foundation กับ BSC ของ NCUK แค่ 9 เดือนแค่นั้นเพราะฉะนั้นเนี่ยน้องจบ Foundation 9 เดือนแล้วสำหรับน้องๆ ม.5 นะคะต่อปริญญาตรีที่นู่น ปี 1 2 3 จบแล้วค่ะใช้เวลา 4 ปี

York: จบเร็วกว่าเพื่อนๆ ที่เรียนประเทศไทยด้วย

British Study Centres : ถูกจบเร็วกว่า

York: ใช่เพราะว่าเราสตาร์ทเรียนตั้งแต่ ม.5 อ่ะค่ะ จบ ม.5 ก็ไปเข้าเรียน Foundation เลยเพราะฉะนั้นมันก็เท่ากับเราใช้เวลาน้อยกว่าคนอื่นเขา

British Study Centres : ถูกต้อง

York: แต่ถ้าถามว่าโอเคถ้าจบ ม.6 เรียนได้มั้ย เรียนได้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร เราก็จบพร้อมเพื่อนก็ประมาณนี้นะคะ

York: ทีนี้ต้องถามต่อว่าหลักสูตร Foundation ของ BSC อ่ะค่ะมีแบ่งเป็นสาขาอะไรบ้าง

British Study Centres : โอเค หลักสูตรของ BSC นะคะแบ่งทั้งหมด 3 สาขาด้วยกันค่ะจะมี

  • Humanity
  • Business
  • Engineering

York: ค่อนข้างเป็นที่นิยมของนักเรียนไทยนะคะ หลักๆ เลยเนอะแล้วถ้าน้องๆ เรียนจบ Foundation ของ BSC แล้วเนี่ยน้องสามารถจะเข้าต่อมหาลัยในเครือ NCUK ได้เลยมั้ย

British Study Centres : ถูกต้องใช่ค่ะ น้องๆ หลังจากที่เรียนจบ Foundation 9 เดือนกับทาง BCS แล้วอ่ะค่ะสามารถที่จะ Progress ไปกับมหาวิทยาลัย 16 มหาวิทยาลัย จริงๆ 16 มหาวิทยาลัยเดี๋ยวอาจจะมาถามพี่เกลอีกทีเนอะว่ามีอะไรบ้างแต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องภายใน 16 มหาวิทยาลัยนี้นะคะเพราะว่าจริงๆ เนี่ยน้องๆ ปีที่แล้วจาก BSC ที่เรียน Foundation อ่ะค่ะมีคนได้รับ Offer จาก University of Bath ด้วยนะคะแล้วก็มีมหาวิทยาลัยอื่นๆนอกเหนือจากนี้ก็สามารถยื่นได้ค่ะแล้วก็นอกเหนือจาก NCUK แล้วอย่างที่ยุ้ยบอกตอนต้นเลย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์แล้วก็ อเมริกา นะคะแล้วก็ตอนนี้เขาก็กำลังขยายมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมนะคะ

York: ก็คือไม่ใช่แค่ NCUK เท่านั้นแต่ว่าการเข้า NCUK มันอาจจะง่ายกว่า

British Study Centres : ใช่ค่ะอย่างที่พี่ยุ้ยแจ้งให้ทราบว่า มหาวิทยาลัย 16 ที่นี้เป็นคนก่อตั้งองค์กรนี้เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าน้องๆ หนูๆ อาจจะ GPA หรืออาจจะเกรดออกมาขาดอีกนิดหน่อยคุยได้สามารถมาคุยกันได้นะคะ

York: แล้วก็ส่วนถ้าน้องจะได้เข้ามหาวิทยาลัยไหนเนี่ยจริงๆ มันขึ้นอยู่กับเกรดใช่มั้ยคะ

British Study Centres : ใช่ค่ะ 😀

York: อย่างสมมุติถ้าน้องจะเข้า University of Manchester ต้องบอกก่อนว่าเขาเป็น U Top มาก เพราะฉะนั้นจะแบบว่าดูเกรด ผลการเรียนที่น้องเรียน Foundation อ่ะค่ะก็ต้องสูงตามที่เขากำหนดไว้

British Study Centres : ถูกต้อง แต่ว่ายังไงแล้วเนี่ยทาง BSC เนี่ยค่ะก็จะมี Support แน่นอนนะคะ เพราะ BSC เป็นโรงเรียนสอนภาษาด้วยเพราะฉะนั้นเนี่ยเรามีหลักสูตรที่จะเป็นสอนภาษาอังกฤษฟรีให้กับน้อง Foundation นะคะ เขาเรียกว่าติวเป็น One to one ทุกอาทิตย์นะคะเพื่อที่จะ Make sure ว่าน้องๆ จะได้ไปในมหาวิทยาลัยที่ต้องการแน่นอน เพราะว่า NCUK กับ BSC เนี่ยจุด Selling point คือการันตี การันตี 100% ที่จะเข้ามหาวิทยาลัย

York : ก็คือเข้ามหาวิทยาลัยได้แน่นอนนะคะ เพราะบางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วมาเรียนอย่างนี้แล้วถ้าเข้าไม่ได้ทำไงแต่จริงๆ เราก็มีมหาลัยที่รองรับค่อนข้างเยอะเนอะ แล้วมันก็ไม่ใช่มีแต่มหาลัยที่ Ranking สูงๆ คือมันจะมีหลายระดับทางสถาบันจะมีบอกไว้เลยว่าโอเคถ้าน้องจะเรียนมหาลัยนี้น้องจะต้องทำคะแนนทำเกรดได้เท่าไหร่ถึงจะสามารถเข้าได้

British Study Centres : ใช่ค่ะถูกต้องเลย

York: เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าน้องๆ สนใจอยากรู้เพิ่มเติมว่ามีมหาลัยอะไรบ้างก็สามารถติดต่อมาทาง York ได้เลยก็จะได้แจ้งให้น้องๆ ได้รู้ว่ามีอะไรบ้างเนอะ

York: มาถามในเรื่องค่าเรียนดีกว่า

British Study Centres : มาถึงจุดสำคัญ 😀

York: แล้วค่าเรียน Foundation อยู่ที่เท่าไหร่คะ

British Study Centres : ก่อนอื่นพี่ยุ้ยขอแจ้งในเรื่องของเปิดเทอมก่อนนะคะ ในส่วนของ Foundation เนี่่ยเรามี

2 Intake นะคะ Intake แรกเริ่ม 5 ตุลาเนี่ยแล้วนะคะแต่จะเป็นแบบเรียนออนไลน์ 3 เดือนแล้วก็ไปเรียน Face to face ที่ London อีก 6 เดือนนะคะเพราะฉะนั้นน้องๆ กลุ่มนี้เนี่ยก็ประหยัดในหลายๆ เรื่องนะคะพี่เกลทั้งค่าที่อยู่ ค่า Health surcharge ค่า Visa

Tier4 เพราะปกติแล้วถ้าไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีขึ้นไปจะต้องขอเป็น Visa ที่มากกว่า 9 เดือนขึ้นไปแต่ถ้าน้องๆ ที่ไเรียนแค่ 6 เดือนจะสามารถขอ Visa ที่ไปเรียนภาษาได้นะคะ

อันนี้จะพยายามไม่พูดเยอะเพราะว่าเดี๋ยวน้องจะงงนะคะ

British Study Centres : Intake ที่ 2 ก็คือ January ในส่วนของ January เนี่ยเรียน 7 เดือนจะค่อนข้างกระชับรวบมากยิ่งขึ้นนะคะและในส่วน Intake ที่ 2 ที่เป็น Face to face จะเปิดวันที่ 4 มกราค่ะ

York: และสำหรับน้องๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ตอนนี้สามารถสมัครได้เลยนะคะตอนนี้ยังทันอยู่

British Study Centres : ในส่วนของเรื่องค่าเทอมค่ะ 15,900 ปอนด์ค่ะพี่เกลขออนุญาติรบกวนคิดให้นะคะทั้ง 2 Intake ก็จะราคาเท่ากันนะคะ

York: ก็จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 กว่าบาทนะคะในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเรียนนะคะ

York: แล้วทาง BSC มี Scholarship สำหรับน้องๆ มั้ยคะ

British Study Centres : วันนี้เราได้รับเชิญจาก York Institute ซึ่งเป็นหนึ่งใน Partner ที่ทำงานกับ BSC มายาวนานนะคะเราก็มีอะไรพิเศษให้อยู่แล้วพี่เกล เรามี Scholarship สำหรับน้องๆ ที่แจ้งว่าดู live นี้นะคะเท่านั้นได้ 2,000 ปอนด์

York: ว้าว 2,000 ปอนด์ก็เยอะนะ

British Study Centres : ประมาณเท่าไหร่คะพี่เกลคำนวนให้หน่อยค่ะ

York: เดี๋ยวพี่คำนวนให้นะคะค่าเรียน 15,900 – 2,000 ก็จะเหลือ 13,900 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็จะอยู่ที่ 500,000 กว่าบาทจากเมื่อกี้ประมาณ 600,000 กว่า ลดไปเยอะมาก

British Study Centres : ค่ะ แล้วก็ขออนุญาติเสริมนิดนึงนะพี่เกลขออนุญาติพูดในเรื่องเกี่ยวกับการเรียนนิดนึงคือโดยปกติแล้วอ่ะค่ะในส่วนของ Foundation เนี่ยในสถาบันอื่นๆ เนี่ยบางที่อาจจะต้องมีการสอบ IELTS อีกทีนึงเพื่อที่จะยื่นกับมหาวิทยาลัยอีกครั้งคือไม่ใช่แค่ฉเพาะสอบ IELTS เพื่อที่จะเข้าเรียน Foundation พอเรียนเสร็จจะต้องสอบอีกซึ่งนักเรียนหลายๆ คนจะแบบอ้าวทำไมฉันจะต้องสอบหลายๆ ครั้ง เพราะฉะนั้นเนี่ยของ NCUK อ่ะค่ะจะไม่ต้องใช้ผล IELTS อีกคครั้งนะคะตอนก่อนเข้าเรียนต้องใช้นะพี่เกลแต่ว่าตอนที่ Progress ไปมหาวิทยาลัยอ่ะค่ะไม่ต้องใช้อีก นักเรียนสามารถใช้หลักสูตร English for academic purposes ก็คือเป็นวิชาเรียนเรียนภาษาอังกฤษในเชิงที่เป็นวิชาการนะคะสามารถใช้ตัวนี้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย

York: อันนี้เฉพาะในเครือของ NCUK หรือเปล่าคะที่ไม่ต้องสอบ IELTS เพิ่ม

British Study Centres : ไม่ค่ะ เพราะอย่างเมื่อสักครู่ที่บอกพี่เกลไปว่าของเด็กเมื่อปีแล้วที่ได้เข้า University of Bath ไปก็เข้าได้เลย

York: อ่อ โอเคทีนี้เมื่อกี้บอกว่าไม่ต้องใช้หลังจากจบละต้องถามก่อนว่าแล้วตอนเข้าผล IELTS ที่ Requirement ของ BSC นี่เท่าไหร่คะประมาณกี่คะแนน

British Study Centres : โอเคในส่วนของ Entry requirement ประเทศไทยนะคะน้องๆ ก็ต้องมีอายุ 17 ปีเนอะแต่แอบกระซิบนิดนึงนะจริงๆ แล้ว 16 ก็ได้นะคะ IELTS 5 นะคะน้องๆ ที่จบ ม.5 ขอ GPA 2.5 น้องที่จบ ม.6 GPA 2.0 และ IELTS 5 ค่ะ

York: พอดีเมื่อกี้พี่ยุ้ยพูดถึงเรื่อง GPA เนอะในการรับเข้าพี่นึกขึ้นได้อย่างนึงเคยมีน้องๆ หลายคนมาถามว่าถ้าเกรดหนูไม่ค่อยสวยตอนมัธยมเนี่ยสามารถมีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ ดีๆ ได้มั้ยต้องบอกว่าเนี่ยค่ะตรงกับน้องๆ เลย เพราะถ้าน้องไปเข้า Direct ไม่ได้นะคะ

British Study Centres : ใช่ค่ะ

York: แต่ว่าถ้ามีเรียนที่ BSC ตัวนี้น้องๆ GPA แค่ 2.5 น้องก็แค่ตั้งใจเรียนให้มันได้เกรดที่สูงขึ้นตามที่มหาวิทยาลัยเขากำหนดเท่านั้นเองค่ะ คือ 2.5 ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสเนอะอันนี้ก็เป็นโอกาสอันดีของน้องด้วยอ่ะค่ะอยากเข้ามหาวิทยาลัยดังก็สามารถมาเรียนที่นี่แล้วปรับพื้นฐานในเรื่องของการเรียนซึ่งจริงๆ แล้วโรงเรียนก็จะช่วยน้องๆ อย่างเต็มที่อยู่แล้วเพราะโปรแกรมนี้มันออกแบบมาสำหรับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะนะคะ

British Study Centres : ใช่ค่ะ แล้วก็ในส่วนของการเรียนกับ BSC เนี่ย BSC เป็นโรงเรียนสอนภาษาเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ยเรื่องของวิชา English for academic purposes อ่ะค่ะปึ้ก ปึ้กมากแน่นอนและอย่างที่บอกอ่ะค่ะเรามีติวภาษาอังกฤษเพิ่มเติมแทบจะทุกอาทิตย์เลยอันนี้เป็นฟรี ติวฟรีเลยนะคะ เพราะฉะนั้นก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ แล้วก็อย่างที่พี่เกลบอกว่าทาง Academic Team ของเราก็พยายามจะช่วยน้องๆ เต็มที่และอย่าลืมนะคะ ม.6 2.0 ก็ได้นะ

ถ้ามาเรียน 9 เดือนเนี่ยได้เข้า U Top แล้ว

British Study Centres : ขออนุญาติเสริมอีกนิดนึงนะพี่เกลน้องๆ ม.5 ม.6 อ่ะค่ะที่เรียนระบบไทยก็ตามที่พี่ยุ้ยแจ้งไปเบื้องต้น แต่น้องๆ ที่เรียน Inter หรือเรียน English Program หรือ GED หรือจะเอา Certificate หลักสูตรของอเมริกันมาได้เลยหรือ GCSE A Level จริงๆ อย่างที่พี่ยุ้ยแจ้งให้ทราบว่า A Level กับ Foundation มันเหมือนกันแต่นักเรียนบางคน A Level เกรดไม่โอเคแล้วก็จะเข้า U Top ก็เหมือนเป็นการแก้ตัวอีกรอบนึงเนอะ เรารับหลากหลายวุฒินะคะ

York: ก็ถือว่าน้องๆ ถ้าคะแนนไม่ดีก็ยังไม่หมดโอกาสนะคะ หลักสูตรนี้คือเราทำมาเพื่อน้องๆ ทุกคนเลยไม่ว่าน้องจะคะแนนเกรดไม่ดีเราก็สามารถที่จะมาปรับใหม่ได้นะคะแล้วก็ทีนี้เราไปหลักสูตรถัดไปของเรากันเลยค่ะ

York: หลักสูตรถัดไปคือ Pre-Master Program นะคะบางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วปกติปริญญาโทที่อังกฤษเรียนปีเดียวจบแล้วทำไมต้องเรียน Pre-Master ด้วย

British Study Centres : อ่ะในส่วนของ Pre-Master Program อ่ะค่ะถามว่าจริงๆ ต้องเรียนมั้ยนิดนึงนะพี่เกล เพราะว่าสไตล์การเรียนการสอนของที่ UK กับที่ไทยมันไม่เท่ากันและเป็นการเตรียม ภาษาอังกฤษที่เป็นวิชาการและการเรียนปริญญาโทมันเป็นการทำวิจัย ค้นคว้าค่อนข้างเยอะเพราะฉะนั้นเนี่ยในการเรียน Pre-Master มันจะมีการสอนรายละเอียดเกี่ยวกับตรงจุดนั้นด้วยแล้วก็เป็นการสอนว่าเวลาที่เราจะต้องค้นคว้าด้วยตัวเองโดยที่ไม่ Professor ฉันจะต้องเรียนอย่างไรซึ่งนักเรียนบางคนได้ IELTS มาค่อนข้างสูงแต่พอไปเรียนในมหาวิทยาลัยจริงๆ แล้วปรับตัวไม่ทันพี่เกลจบเลยจบกัน เพราะฉะนั้น Pre-Master เนี่ยจะเป็นการช่วยปรับพื้นฐานอย่างนึงคล้ายๆ กับ Foundation เนอะแต่ว่าเป็นในส่วนของระดับปริญญาโทค่ะ

York: ก็คืออย่างน้องบางคนเรียนหลักสูตรไทยมาตลอดเลยอย่างน้องบางคนเรียนมาตั้งแต่ประถมจนถึงมหาลัยอ่ะค่ะเราก็ต้องรู้เนอะว่าการเรียนมันจะค่อนข้างแตกต่างกันจริงๆ ค่ะเพราะว่าน้องๆ บางคนเข้า Direct ตรงไปแต่ก็จะมีเรื่องของปัญหาเวลาที่อาจารย์สั่งให้ทำ Assignment ทำ Research ทำยังไงเขียน Reference เขียนยังไง

อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ

(ตอน 2) live สดกับพี่ยุ้ย จากสถาบัน British Study Centres ถึงหลักสูตร pathway สู่มหาวิทยาลัยในเครือ NCUK ประเทศอังกฤษ

 

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.