094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

(ตอน 1) live สดกับคุณเจต Regional Manager, South East Asia จากสถาบันภาษา EC English ที่มีกว่า 30 แคมปัสทั่วโลก

วันนี้คุณเจต มาให้ข้อมูลแบบละเอียดสุดๆ ทั้งแนะนำโรงเรียน, หลักสูตร, โปรโมชั่น, ค่าเรียน. สถานการณ์ปัจจุบันช่วงโควิดและตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ   คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)

สถาบันภาษา EC English ก่อตั้งในปี คศ. 1969 มีสาขา อยู่ใน ประเทศ อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มอลทา และแอฟริกาใต้ เป็นสถาบันที่มีคุณภาพทางการเรียนการสอนดีเยี่ยม  และได้รับความไว้วางใจจากนักเรียนทั่วโลก เห็นได้จากการบอกต่อไปยังเพื่อนๆ ของนักเรียนเก่าถึงกว่า 94%

(การสัมภาษณ์นี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ข้อมูลในเรื่องการกักตัว, การเปิดสอนในแต่ละแคมปัส อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามข้อมูลล่าสุดได้ที่ York Institute)

York: สวัสดีค่ะ พี่เกลจาก York นะคะ วันนี้นะคะอย่างที่เราได้บอกเลยว่าวันนี้เราจะมี Live ในเรื่องของการพูดคุยการเรียนภาษาในต่างประเทศจากโรงเรียน EC English นะคะแล้ววันนี้พี่เกลไม่ได้มาคนเดียวนะคะ เรามีแขกรับเชิญมาด้วยนะคะ ขอต้อนรับ คุณเจตจาก EC English ค่ะ

EC English: สวัสดีค่ะ

EC English: สวัสดีค่ะน้องเกล สวัสดีน้องๆ ที่ฟัง Live ของทาง York Institute ด้วยนะคะพี่ชื่อ พี่เจต นะคะเป็นตัวแทนของ EC English ในประเทศไทยและ South East Asia  ดูแลตัวแทนในประเทศไทยและนักเรีียนไทยด้วยค่ะ

York: ค่ะ เดี๋ยวก่อนอื่นน้องๆ อาจจะยังงงๆ ว่า EC English คืออะไร บางคนอาจจะยังไม่รู้จักเนอะ ทีนี้เดี๋ยวจะให้ทางคุณเจตช่วยแนะนำโรงเรียน EC English ให้กับน้องๆ ที่ยังไม่รู้จักนะคะ งั้นเดี๋ยวเกลขอมอบหน้าที่นี้ให้คุณเจตเลยค่ะ

EC English: ค่ะ งั้นพี่จะใช้เวลาแนะนำ EC สั้นๆ เนอะก็คือ EC English เนี่ยเป็นโรงเรียนสอนภาษาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกเลยนะคะ เดี๋ยวพี่จะแชร์สกรีนสั้นๆ ให้ดูนะคะว่าเป็นยังไงว่ามีอะไรบ้าง อันนี้เห็นกันมั้ยเอ่ยเกลเห็นมั้ยคะ

York: ค่ะเห็นแล้วค่ะ

EC English: อันนี้จะเป็นหน้าที่เราสามารถเข้าไปดูโรงเรียนแบบ 360 องศาได้นะคะ

ก็อันนี้เราใช้แพลตฟอร์มที่เป็น Google view แบบนี้อ่ะค่ะเด็กก็สามารถหมุนดูได้ทีนี้ถามว่าเรามีสาขาที่ไหนบ้าง เราจะมีที่ US นะคะ ก็จะมีที่ Boston, New York, Washington,   San Francisco, San Diego, Los Angeles, Miami

ส่วน Canada เราจะมีอยู่ 3 เมืองก็คือที่ Toronto, Montreal, Vancouver

ส่วน UK เราจะมีที่ London, Oxford, Cambridge, Brighton, Bristol, Manchester นอกเหนือจากนั้นเราก็จะมีที่ Ireland ที่ Dublin นะคะ แล้วก็ที่ยุโรปทางตอนใต้ก็จะเป็นที่ Malta ซึ่ง Malta ก็จะเป็น Head Office ของเราด้วยนะคะ ถัดมาไปทาง South Africa เรามีที่ Cape Town ด้วยนะคะ

แล้วก็ข้ามไปทาง Australia นะคะก็จะมีใน Melbourne Sydney Brisbane Gold Coast แล้วก็สุดท้าย เรามีที่ New Zealand ที่เมือง Auckland ค่ะ

EC English: ทีนี้ EC เป็นโรงเรียนสอนภาษาแบบไหนเนอะ ทาง EC จริงๆ เราเปิดมา 100 กว่าปีแล้วนะคะตั้งแต่ปี 1917 เนอะ แต่ว่าการที่เป็นโรงเรียนสอนภาษาที่มีสาขาทั่วโลกเนี่ยจะเริ่มอยู่ที่ประมาณ 26-27 ปีที่แล้วเพราะจริงๆ การเริ่มครั้งแรกของเราเนี่ยเป็นโรงเรียนที่สอนนักเรียนอังกฤษใน Malta นะคะ บริษัท EC เป็นบริษัท Maltese นะคะก็คือเจ้าของเป็นคน Maltese นะคะซึ่งใน Malta เขาจะพูดกัน 2 ภาษาคือ Maltese และภาษาอังกฤษ เนื่องจาก Malta เนี่ยเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อนนะคะ

ทีนี้จากการเปลี่ยนแปลงของเรามาเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีสาขาทั่วโลกเนี่ย หลังจากนั้นเราก็เพิ่งไปควบกิจการกับทาง Embassy CES ถ้านักเรียนในไทยจะเคยรู้จักโรงเรียนนี้มาก่อนนะคะดังนั้นตอนนี้เนี่ยสาขาของ Embassy CES ในประเทศอื่นๆ นะคะที่ไม่ใช่ Australia, New Zealand เนี่ยจะไม่มีแล้วก็จะเหลือแต่ EC อย่างเดียวแล้วก็สาขาที่เคยเป็นของ Embassy CES ใน Australia New Zealand ปัจจุบันก็กลายเป็นของ EC ไปนะคะ ถึงตรงนี้มีคำถามมั้ยคะน้องเกล

York: ยังค่ะ เชิญต่อเลยค่ะ

EC English: งั้น พี่พาไป Snapshot อัพเดทในโรงเรียนที่เราเปิด ณ ตอนนี้นะคะในช่วง สถาณการณ์ Covid ก่อนแล้วกันนะคะ อันนี้จะเป็นข้อมูลล่าสุดคร่าวๆ ที่เราเปิดศูนย์ในยุโรปก็คือที่ London Brighton แล้วก็ที่ Malta นะคะ ตัว Malta นี่เราจะเปิดก่อนเพื่อนและคือจะเปิดมาตั้งแต่ประมาณเดือนที่แล้ว (สิงหาคม) ปัจจุบันก็เป็นการเรียนการสอนที่มีทั้งตัว Online และ Face to Face เรียนร่วมกันเนอะ กลับไปที่ UK ซึ่งมี 2 เมืองที่เราเปิดอย่างที่บอกก็คือเราเปิดแล้วตั้งแต่เดือนที่แล้วนะคะ

แล้วก็ปัจจุบัน Malta อนุญาตให้นักเรียนไทยสามารถเดินทางเข้าไปโดยที่ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสะดวกมากแต่ว่าอาจจะต้องกรอกฟอร์มนิดหน่อยที่สนามบินเท่านั้นเองแล้วก็อาจจะต้องมีการเตรียมตัวเกี่ยวกับการเดินทางสักนิดนึง เวลาเราเดินทางก็ต้องสวมหน้ากากและพกพวกเจลล้างมือไว้ด้วยนะคะ

ปัจจุบันอันนี้จะเป็นตัวอย่างของตารางเรียนปัจจุบันที่ทาง Malta เปิดเรียนเราก็จะเปิดเรียนตามปกติซึ่งเป็นช่วงเช้านะคะคือประมาณ 09:00 และสิ้นสุดในช่วงบ่ายประมาณ 18:00 ค่ะ

ถัดมาปัจจุบันคือช่วงคาบเกี่ยวของเดือนสิงหาคมและกันยายนเราจะมีสัดส่วนของนักเรียนที่เป็นยุโรปค่อนข้างเยอะนะคะเพราะเนื่องจากว่านักเรียนที่อยู่ในโซนของยุโรปเนี่ยสามารถเดินทางเข้า Malta ได้ง่ายกว่าเพราะว่าการเดินทางระหว่างยุโรปเนี่ยเขาเปิดขึ้นในระดับนึง

แล้วส่วนนักเรียนไทยนะคะในตอนนี้อาจจะต้องรอทางสถานฑูตออสเตรียเปิดทำการสักนิดนึงนะคะเพื่อการพิจารณา Visa ค่ะเราดูได้จากทาง VFS ซึ่งเป็น Office ที่ Process เรื่อง Visa เนี่ยเริ่มเปิดในประเทศยุโรปสำหรับคนไทยมากขึ้น คิดว่าออสเตรียน่าจะเปิดในลำดับถัดๆ มาอาจจะต้องคอยๆ ดูข่าวนะคะซึ่งพี่เกลอาจจะค่อยๆ แจ้งน้องๆ เมื่อมีการเปิดทำ Visa แล้ว

York: ค่ะ ได้เลยค่ะ

EC English: อันนี้จะเป็นภาพที่เป็นตัวอย่างนะคะว่าหลังจากที่เขาเปิดเนี่ยเขาก็จะมีเป็น PVC Screen เนอะแล้วก็ทางเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็น Student service ก็ต้องใส่ Face mask หรือ Face shield นะคะป้องกัน แล้วเราก็จะเตรียมพวก Hand sanitizer ทำความสะอาดให้นักเรียนทุกๆ จุดนะคะแล้วก็มีการจำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้องเพื่อไม่ให้มีจำนวนนักเรียนที่เข้าไปอยู่รวมกันในห้องที่เยอะเกินไปนะคะ แล้วก็จะมีการทำความสะอาดในส่วนบริเวณจุดที่นักเรียนอาจจะต้องสัมผัสบ่อยๆ นะคะอย่างเช่นพวกมือจับประตู ห้องน้ำ ก็จะมีการทำความสะอาดกันทุกๆ วันและแต่วันเนี่ยหลายๆ ครั้งนะคะ

ส่วนตัวที่เป็นระบบของโรงเรียน เช่นระบบเครื่องปรับอากาศระบบเครื่องทำความร้อนอย่างนี้ค่ะก็จะต้องมีการทำความสะอาดทั้งระบบเหมือนกันเพราะเขาเชื่อกันว่ามันจะลดการติดกันได้ ถ้าเกิดระบบที่เป็นระบบปิดเนี่ยมีการหมุนเวียนของอากาศที่สะดวกขึ้นนะคะเราเลยต้องทำบ่อยๆ เนอะ เดี๋ยวพี่จะพากลับไปส่วนของอังกฤษที่เราเปิดเนอะ

York: ค่ะ

EC English: ปัจจุบันเราเปิดอยู่ 3 ศูนย์นะคะที่ London Brighton แล้วก็ล่าสุดที่กำลังจะเปิดก็คือที่ Bristol นะคะ ปัจจุบันนักเรียนไทยเดินทางเข้าอังกฤษได้สามารถทำวีซ่าได้แต่เสียดายว่าจะต้องมีการกักตัว 14 วันนะคะ ไม่ใช่ระบบที่เป็นการกักตัวจากทางรัฐบาลนะคะนักเรียนสามารถกักตัวที่ที่พักของตัวเองได้เลย

ทีนี้วิธีการกักตัวทำยังไงนะคะ ถ้านักเรียนที่ไปพักกับ Homestay คือไปพักกับครอบครัวโฮสจะมีการจัดอาหารมื้อกลางวันให้แต่ว่านักเรียนห้ามออกจากบ้านเลย แต่ไม่ได้จำกัดถึงขั้นว่านักเรียนห้ามออกจากห้องไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักไปไหนได้

ทีนี้ในส่วนของนักเรียนที่พักอยู่กับหอพักก็คือห้ามออกจากที่พักเลยในบางที่พักอาจจะกำหนดว่าห้ามออกจากห้องแต่ว่าคิดว่าไม่น่าจะเข้มงวดถึงขนาดนั้นนะคะเป็นการกักตัวเฉพาะในสถานที่พักเฉยๆ ส่วนมื้ออาหารอาจจะต้องใช้ระบบสั่งออนไลน์หรือโทรสั่ง ซึ่งทางแต่ละที่พักเนี่ยเขาจะมีผู้ให้บริการส่งอาหารให้กับนักเรียนซึ่งจะได้ไม่ต้องออกไปจัดหาเรื่องอาหารนะคะ

ทีนี้ในส่วนของการเข้า UK ซึ่งทาง UK เนี่ยเปิดระบบการทำ Visa มาน่าจะเกิน 2 เดือนแล้วเนอะตั้งแต่ต้นมิถุนายนแล้วก็รู้สึกว่าเท่าที่พี่ได้ฟังจากผู้ที่ยื่นไปแล้วก็ค่อนข้างไวไม่ช้าเป็นปกติหลังจากนั้นเนี่ยเราก็อาจจะต้องดูว่ามีเที่ยวบินไหนที่สามารถบินเข้าอังกฤษได้ก็เป็นการเสร็จสิ้น การเข้าเมืองก็เหมือนกับที่ Malta ทำก็คือต้องมีการกรอกฟอร์ม หรือถ้าใครอยากจะ Go Extra mile ก็อาจจะไปตรวจ Covid กับโรงพยาบาลในไทยก่อนก็ได้แต่ว่าจะต้องถือผลที่มันมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับจากวันที่เรา Landing ที่ UK นะคะ อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขากำหนดนะคะแต่ว่าใครที่คิดว่าอยากจะทำเพื่อความสบายใจของปลายทางก็แนะนำให้ทำได้นะคะ

EC English: อันนี้จะเป็นตารางเรียนของ UK นะคะก็จะใกล้เคียงกับของที่ Malta มากๆ นะคะก็จะเริ่มเรียน 09:00 น. แล้วก็เลิกเรียนชั้นเรียนสุดท้ายประมาณ 18:00 น. ค่ะ

ระบบการเรียนของเราทั้งที่ Malta และที่อังกฤษเนี่ยนะคะจะเป็นระบบฟันปลาเริ่มเช้าวันจันทร์ บ่ายวันอังคาร เช้าวันพุธ บ่ายวันพฤหัส หรือใครที่เป็นตารางที่เริ่มวันจันทร์เนี่ยวันอังคารก็จะเป็นเช้า เป็นการสลับแบบฟันปลาเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีภาวะการเรียนที่ค่อนข้างเสถียรแล้วก็มันจะคล้ายกับระบบการเรียนในมหาวิทยาลัยอ่ะค่ะที่นักเรียนจะมีตารางเรียนที่ไม่ตรงกันตลอดเวลาเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดภาวะการอยากเรียนรู้ตลอด

แต่ว่าในส่วนของ London ตอนนี้จะเป็นช่วงเช้าทั้งหมดนะคะเพราะว่าจำนวนนักเรียนไม่ได้มีมากพอที่เราสามารถจะสลับฟันปลาได้ขนาดนั้นแล้วก็นักเรียนส่วนใหญ่อยากจะมาเรียนช่วงเช้านะคะเพื่อที่เสร็จแล้วจะได้กลับบ้านในช่วงบ่ายก่อนช่วงการเดินทางออกจากเมืองในช่วงเย็นของคนใน London อ่ะนะคะ อันนี้ก็เป็นไปตามสถาณการณ์ปัจจุบันค่ะ

ล่าสุดที่พี่ได้ฟังจากทางเจ้าหน้าที่เพื่อนร่วมงานพี่ที่นู่นเนี่ยก็คือ เขาก็ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติแต่ว่าในหลายๆ สถานที่เนี่ยก็เบาบางกว่าเหมือนน่าจะใกล้เคียงกับที่กรุงเทพมากนะคะที่คนก็ค่อนข้างระวังแต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในช่วงนี้ก็เป็นหน้าร้อนของที่อังกฤษเนอะดังนั้นเราก็จะเห็นคนค่อนข้างหนาตาหน่อยแล้วก็เดี๋ยวอีกสักพักบางโรงเรียนในอีก 2 สัปดาห์เนี่ยก็จะเริ่มเปิดเรียนกันแล้วนะคะที่นู่นรวมทั้งมหาวิทยาลัยด้วยนะคะ นักเรียนก็อาจจะรู้สึกว่าเมืองที่นู่นจะเริ่มคึกคักกลับเข้ามาอีกเพราะว่าคนเริ่มออกไปใช้ชีวิตกันตามปกติแล้วนะคะ

EC English: ส่วนอันนี้จะเป็นคาบเกี่ยวระหว่างเชื้อชาติของนักเรียนนะคะเราจะเห็นว่าในช่วงสิงหาคมเรายังมีนักเรียนไทยบ้างแล้วก็ในช่วงกันยายนเนี่ยเราก็จะมีนักเรียนไทยเพิ่มขึ้นนิดนึงก็เป็นนักเรียนไทยที่ยังอยู่ที่อังกฤษนะคะแล้วก็โอนย้ายมาเรียนกับเราแล้วก็นักเรียนที่คาดว่าจะเดินทางไปได้เพราะว่าอังกฤษอนุญาติให้นักเรียนเดินทางไปเรียนได้ตามปกติโดยไม่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่างนักเรียนมหาวิทยาลัยหรือนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่ว่ามีเงื่อนไขแบบเดียวกันสำหรับคนที่ถือสัญชาติไทยถือหนังสือเดินทางไทยก็คือต้องกักตัว 14 วันนั่นเองนะคะ

EC English: อันนี้จะเป็นของที่ EC Brighton นะคะ set up ในโรงเรียนใน UK เนี่ยก็จะไม่ได้ต่างจากที่ Malta นะคะเราก็จะมีการจัดเตรียมพวก Hand sanitizer ให้เด็กมีการทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนตลอดและจุดที่นักเรียนต้องสัมผัสหรือต้องใช้ร่วมกันเราก็จะทำความสะอาดบ่อยๆ ระบบทุกอย่างเราก็ต้องทำความสะอาดถี่กว่าเดิมนะคะ เพื่อให้นักเรียนเนี่ยสามารถมั่นใจได้ว่ามาเรียนเป็น Face to Face เนี่ยตลอดเวลาในอังกฤษเราจะเรียนเป็นระบบ Face to Face 100% นะคะ

EC English: Student Feedback เท่าที่พี่คุยกับเพื่อนร่วมงานที่อังกฤษก็คือนักเรียนดีใจที่ได้กลับมาเรียนแบบ Face to Face แล้วก็รู้สึกว่าการเรียนแบบ Face to Face มันคือสิ่งที่ตอบโจทย์ในการเรียนมากกว่า แล้วก็บางคนก็พอใจเพราะว่าโครงสร้างในห้องเรียนมันหลวมขึ้นเพราะว่าเราจัดไม่ให้เด็กเกิน 8 คนต่อห้อง ดังนั้นต่อ 1 คาบเนี่ยก็ทำให้ครูผู้สอนสามารถใช้เวลากับนักเรียนแต่ละคนได้มากขึ้นนะคะ

EC English: กลับมาอันนี้ในส่วนของยุโรปนะคะ ในประเทศอื่นๆ ในยุโรปเนี่ยเรากำลังไล่ๆ เปิดมานะคะ Ireland จะตามมาทีหลังในไม่ช้านี้ ในส่วนเมืองอื่นๆ เราจะค่อยๆ ทยอยเปิดเมื่ีอเมืองนั้นเขาจัดการเรื่องความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ได้เราก็จะค่อยๆ ทยอยเปิดนะคะถถงตรงนี้มีคำถามเพิ่มเติมมั้ยคะเกี่ยวกับอังกฤษ

York: ค่ะ ก็คือว่าเท่ากับตอนนี้ประเทศที่เปิดเรียนเต็มๆ แล้วก็คือจะเป็นประเทศอังกฤษถูกมั้ยคะ

EC English: ใช่ค่ะใน 3 เมืองก็คือ London Brighton แล้วก็ Bristol ค่ะ

York: โอเคค่ะถ้าเกิดว่าน้องๆ คนไหนสนใจอยากจะไปประเทศอังกฤษคือจริงๆ ตอนนี้อังกฤษก็สามารถเปิดให้ต่างชาติเข้าไปได้แล้วแค่ต้องกักตัว 14 วันแค่นั้นเอง

EC English: ใช่ค่ะเป็นระบบกักตัวด้วยตัวเอง เขาจะไม่มีคนมาตามเรานะ แต่ถ้าเราไม่ทำตามถ้าเขามาเจอเราเขาจะดูได้จากว่าเราเข้าเมืองมาเมื่อไหร่แล้วถ้าเขาไปเจอ สมมุติว่าถูกสุ่มตรวจเรียกสอบถามกลางถนนอย่างนี้แล้วเรายังควรจะต้องอยู่ในที่พักเนี่ยในเวลานั้นเขาจะปรับเราอยู่ที่ 10,000 ปอนด์ แต่เขาจะไม่ได้มาตามเราหรือมาคุมเรานะคะ

York: โอเคนะคะน้องๆ ก็อย่างที่บอกค่ะคือเราแค่ปฏิบัติตามกฏของประเทศนั้นๆ เท่านั้นเอง

EC English: ใช่ค่ะ ก็สามารถปรึกษากับพี่เกลเรื่องการเรียนที่ London Brighton หรือ Bristol ได้นะคะเพราะว่าที่อังกฤษเนี่ยเดินทางได้แล้วทำ Visa ได้แล้วค่ะก็แค่อาจจะติดตรงเรื่องกักตัวเท่านั้นเอง

EC English: ส่วน Malta นะคะอย่างที่แจ้งไปเบื้องต้นก็คือไม่มีระบบกักตัว ใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแต่ว่าทางสถานฑูตออสเตรียประจำประเทศไทยเนี่ยยังไม่เปิดให้ทำ Visa ค่ะ

EC English: ทุกคนอาจจะงงนิดนึงว่าพี่พูดถึง Malta แล้วทำไมยังไปพูดถึงสถานฑูตออสเตรีย ประจำประเทศไทยนะคะ เนื่องจากว่า Malta เนี่ยไม่มีสถานฑูตประจำประเทศไทยนะคะแล้วก็สถานกงสุล Malta ไม่มีสิทธิ์ออก Visa ให้เด็ก รัฐบาล Malta เนี่ยจะกระจายวิธีการการขอ Visa ในประเทศที่ตัวเองไม่มีสถานฑูตอยู่เนี่ยโดยเลือกสถานฑูตประเทศที่อยู่ในระบบ Schengen เนี่ยแตกต่างกันไปนะคะในการดูแลและอนุมัติ Visa ในการเดินทางเข้า Malta ไม่เกิน 90 วันเนี่ยให้ดูแลในประเทศนั้นๆ ในประเทศไทยเนี่ยรัฐบาล Malta อนุญาตให้ สถานฑูตออสเตรียประจำประเทศไทยเป็นผู้ดูแล Visa ที่เข้า Malta นะคะไม่สามารถไปขอที่ประเทศอื่นได้นะคะถ้าจะขอ Visa แบบ 90 วันต้องขอที่สถานฑูตออสเตรียประจำประเทศไทยเท่านั้นนะคะอันนี้คือสาเหตุ ทีนี้มันจะเปิดก็ต่อเมื่อสถานฑูตออสเตรียประจำประเทศไทยตัดสินใจเปิดการทำ Visa ซึ่งพี่คิดว่าเขาจะเริ่มพิจารณาว่าจะเปิดในเวลาอันใกล้นี้เพราะว่าดูจากตัวประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่เริ่มเปิดทำ Visa ให้กับบคนไทยแล้วเนอะ

York: ใช่ค่ะ ก็คือเท่ากับว่าตอนนี้ Malta ตัวประเทศจริงๆ อ่ะเปิดแล้วถูกมั้ยคะ

EC English: ใช่ค่ะ

York: แต่เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องรอในเรื่องของสถาณฑูตออสเตรียที่เขาจะเปิดให้คนไทยสามารถขอ Visa ได้ถ้าเกิดว่าเปิดเมื่อไหร่แล้วน้องๆ ที่อยากไป Malta เนี่ยสามารถที่จะยื่นขอ Visa ได้เลยค่ะ

EC English: ใช่ค่ะเพราะว่าข้อดีของการไปเรียน Malta นี่นะคะ ก็คือเป็นประเทศที่อยู่ใน EU เนอะอยู่ในระบบ Schengen เนอะ แล้วก็ที่สำคัญหลายคนอาจจะยังไม่ทราบเมื่อนักเรียนไปขอต่อ Visa นักเรียนที่ Malta ซึ่งทาง EC Malta เราจะมี Student service ช่วยในการยื่นขอต่อ Visa ที่นู่นเพราะว่าเขารู้ว่าเด็กไทยไม่สามารถได้ Visa นักเรียนจากไทยอยู่แล้วดังนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตรงนี้ในการช่วยค่ะ

และเมื่อเราได้ Visa นักเรียนที่นั่นแล้วเนี่ยเราสามารถทำงานพิเศษได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และยังสามารถเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นๆในยุโรปที่อยู่ใน Schengen ได้ด้วยนะคะแล้วก็การเดินทางสะดวกมากเพราะบินใกล้ๆ แปปเดียว สามารถเดินทางไปเที่ยว Italy ใกล้ๆ ได้  ไปเที่ยว Germany Switzerland ได้นะคะ มีที่ไหนอีกที่คนไทยนิยมไปในยุโรป France นะคะไปได้ Spain ก็ไปได้ เป็นจุดหมายใหม่นะคะที่นักเรียนไทยหลายคนนิยมไปนะคะแล้วบางคนอาจจะบอกว่างั้นหนูขอข้ามไปอังกฤษด้วยได้มั้ย ได้ค่ะถ้าหนูทำ Visa ท่องเที่ยวอังกฤษไว้ด้วยหลังจากที่ได้ Visa ของ Malta แล้วนะคะก็สามารถใช้วีซ่าอังกฤษเนี่ยเดินทางเข้าอังกฤษได้เหมือนกันมีสายการบินที่บินตรงเข้าอังกฤษด้วยจาก Malta เพราะฉะนั้นเดินทางสะดวกมากจริงๆ นะคะแล้วก็ที่สำคัญคือค่าเครื่องบินถูกมากในช่วงเวลาปกตินะคะ

เพราะว่า Malta เนี่ยเขาเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนี่เป็นอุตสาหกรรมหลักน่าจะคล้ายๆ เมืองไทยระดับนึงแต่สัดส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขาน่าจะสูงกว่าเราค่อนข้างเยอะนะคะเทียบจากจำนวนประชากรแล้วก็พื้นที่นะคะ ดังนั้นเนี่ยเที่ยวบินเขาจะมีค่อนข้างเยอะที่ไปลงยุโรป จากเมืองไทยเนี่ยเราจะถูกจำกัดอยู่ 2 สายการบินถ้านักเรียนต้องการขอ Visa นักเรียนทีหลังแต่ถ้าไม่ จะบินสายการบินไหนก็ได้นะคะแต่ถ้าต้องการขอ Visa นักเรียนต่อที่นู่นเนี่ยจะถูกจำกัดอยู่ที่ Emirates และ Turkish Airlines เพราะว่าปัจจุบันเนี่ยยังจะต้องบินเข้า Malta เป็นประเทศแรกในระบบ Schengen และ EU นะคะแต่ถ้าอีกหน่อยอังกฤษออกจาก EU แบบสมบูรณ์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วเนี่ยอาจจะสามารถบินผ่านอังกฤษได้นะคะ อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตเดี๋ยวขอพี่ตรวจสอบข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ที่ Malta เพื่อยืนยันข้อมูลนี้อีกทีนะคะเพราะตอนนี้มันยังอยู่ในเส้นที่ทับกันอยู่เขายังไม่่ได้ออกแบบสมบูรณ์แบบนะคะยังมีภาวะติดพันธ์กันอยู่ค่ะ

York: ได้เลยค่ะก็คือว่า Malta ตอนนี้เป็นประเทศใหม่อีกประเทศนึงที่น่าจับตามองแล้วก็น่าสนใจซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มมีน้องๆ คนไทยสนใจเข้าไปเรียนมากขึ้นเนอะ

EC English: ใช่ค่ะเริ่มเข้ามาเรียนกันมากขึ้น

York: เพราะว่าด้วยความที่เขาอยู่ในยุโรปเนอะและน้องไปเรียนที่ Malta น้องสามารถที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นๆในแถปยุโรปได้อีกด้วยนะคะ

EC English: ใช่ค่ะในระบบ Schengen ได้นะคะ

York: แล้วก็อย่างที่คุณเจตบอกเมื่อกี้นี้ว่าประเทศนี้ Visa นักเรียนสามารถทำงานได้ค่ะเพียงแต่ว่าไประยะแรกระหว่างที่เราไประยะแรกเป็น Visa ท่องเที่ยวเนี่ยอาจจะยังทำไม่ได้

EC English: ใช่ค่ะเพราะว่าเขาไม่สามารถออก Visa นักเรียนให้จากประเทศไทยได้นั่นเองอันนี้คือสาเหตุหลักๆ นะคะ

York: ใช่ค่ะแล้วก็หลังจาก 3 เดือนนั้นแล้วหลังจากที่เราได้ Visa นักเรียนเรียบร้อยแล้วน้องๆ ก็ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายค่ะ ทีนี้ไหนๆ พูดถึงเรื่อง Malta แล้วอยากจะถามในเรื่องของเมืองใน Malta นิดนึงค่ะว่าเป็นยังไงบ้างเพราะน้องบางคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่า Malta นี่เป็นยังไง

อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ

(ตอน 2) live สดกับคุณเจต Regional Manager, South East Asia จากสถาบันภาษา EC English ที่มีกว่า 30 แคมปัสทั่วโลก

หากน้องๆ สนใจเรียนภาษาอังกฤษ๋กับสถาบันคุณภาพ EC English สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.