094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

พี่เล็ก แชร์ประสบการณ์การทำงาน Part-Time ในขณะที่เรียนที่ออสเตรเลียค่ะ

สวัสดีค่ะ คราวที่แล้วพี่เล็กได้เล่าถึงประสบการณ์การเรียนภาษาที่สถาบัน Imagine Education Australia ไปแล้วนะคะ ในวันนี้พี่เล็กจะมาแชร์ประสบการณ์การทำงาน Part- Time ในขณะที่เรียนที่ออสเตรเลียค่ะ เพราะนอกจากเรื่องเรียนแล้วคงปฎิเสธไม่ได้ว่าการทำงาน Part-Time ก็เป็นอีกหนึ่ง ประสบการณ์ที่ดีและคุ้มค่า เพราะนอกจากเราจะไม่ต้องรบกวนค่าใช้จ่ายจากคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับตัวเราด้วย  แถมยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้มีเพื่อนใหม่ทั้งไทยและต่างชาติ  เป็นช่วงเวลาดีๆที่เราจะได้ฝึกภาษาให้คล่องๆ ไปด้วยเลย และที่สำคัญไปกว่าการทำงาน มันยังเป็นการพัฒนาและฝึกฝนตัวเองให้ขยัน อดทน และตรงต่อเวลาด้วยค่ะ

การจะทำงาน part-time ในประเทศออสเตรเลีย ก่อนอื่นเราต้องยื่นเรื่องขอ TFN ( Tax File Number ) ก่อนเลยค่ะ โดยสามารถยื่นออนไลน์ได้ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ เราจะได้รับเอกสารแจ้งเลข TFN ของเรา ซึ่งโดยปกติแล้วนักเรียนสามารถทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่ออาทิตย์นะคะ เงินจะโอนเข้าบัญชีธนาคาร ( อ่อ เงินที่นี่จะออกเป็นอาทิตย์ค่ะ ไม่ได้ออกเป็นเดือนเหมือนบ้านเรา ) แล้วจะมีการหักเงินบางส่วนไว้เป็นค่าภาษี ( Tax ) ซึ่งเราสามารถทำเรื่องขอคืนเงินได้ในช่วงเดือน มิถุนายนของทุกปี เราเรียกว่า ( Tax Return )   ถ้าทำนอกเหนือจากนี้ก้ต้องรับเป็นเงินสดค่ะ เราจะได้เงินเต็มจำนวน เป็นที่นิยมของนักเรียนไทย 555+( แต่ผิดกฏหมายนะคะ )

งาน part-time ที่พี่เลือกทำคือที่ร้านอาหารไทยค่ะ เป็นอาหารไทยแนว Fusion ไม่ใช่อาหารไทยแท้สักเท่าไหร่นัก ซึ่งในร้านจะมีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ลด้วย  ดังนั้นถ้าจะให้ดีเราควรมีใบ  RSA Certificate  ซึ่งย่อมาจากคำว่า Responsible Service Alcohol  ( เป็นใบอนุญาตสำหรับเสริฟ ขายและทำงานเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ลเป็นส่วนประกอบ ผู้ให้บริการต้องมีใบอนุญาตในการให้บริการตามข้อบังคับทางกฎหมาย ซึ่งแต่ละรัฐก็มีเกณฑ์ที่แตกต่างกันค่ะ)  การที่เราจะมีใบนี้ได้ก้ต้องสอบนะคะ เป็นการสอบออนไลน์ค่ะ ง่ายๆไม่อยาก ค่าใช้จ่ายในการสอบจะอยู่ที่ราวๆ AU$70- AU$80   ค่ะ

พี่อยู่ที่เมือง Gold Coast ร้านอาหารไทยที่พี่ทำค่อนข้างอยู่นอกเมืองค่ะ  เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีรถขับใช้เวลาประมาณ  20-25 นาที ในการเดินทาง  แต่ก้มี Bus ผ่านนะคะ  แต่มาชั่วโมงละคัน เพราะฉะนั้นต้องจัดตารางเวลาให้ดีถ้าจะเดินทางด้วย Bus ไม่งั้นตกรถแน่นอน และเวลากลับก็ต้องอาศัยเพื่อนค่ะ เพราะกว่าจะเลิกงานก็ 3-4 ทุ่ม รถหมดแล้วค่าา

การสมัครงานของพี่อาจจะโชคดีหน่อยตรงที่เป็นจังหวะที่ร้านขาดคนตอนที่พี่พึ่งไปเรียน แล้วเพื่อนแนะนำ บวกกับภาษาพี่พอได้บ้าง เพราะฉะนั้นพี่เลยไม่ได้หางานยากสักเท่าไหร่ค่ะ ในช่วง 6 เดือนแรกพี่ต้องเรียนภาษา จ-ศ. ครึ่งวัน เพราะฉะนั้นจะสามารถทำงานได้แค่ช่วงเย็น เริ่มงาน 4.30 pm. – 9.00 pm. ( ทำงาน 5 วัน พุธ – อาทิตย์ ) ค่าแรงเริ่มต้นอยู่ที่  $14 ต่อชั่วโมงค่ะ เป็นเด็กเสริฟอยู่หน้าร้าน อยู่หน้าบาร์  ชงเครื่ิองดื่มแอลกอฮอล์ล ( อย่าลืม!!! เราต้องมีใบ RSA นะคะ เพราะถ้าโดนสุ่มตรวจแล้วไม่มี  เราจะโดนปรับเงินซึ่งแพงมาก แล้วทางเจ้าของร้านจะโดนทั้งปรับและสั่งปิดร้านชั่วคราวค่ะ ซึ่งถือว่ากฎหมายบ้านเค้าแรงมากกกกๆ ) แล้วห้ามขายแอลกอฮอล์ลให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีนะคะ ถ้าลูกค้ารายไหนเราไม่แน่ใจเรื่องอายุ ขอดู ไอดีการ์ดเค้าได้ค่ะ ถ้าไม่ให้ก็แจ้งไปเลยว่าไม่ขาย  คอยรับออเดอร์ เก็บจาน แล้วก็เดินสอบถามลูกค้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง สนุกดีค่ะ  ถือว่าเราได้ฝึกภาษา แล้วก็มีรายได้เสริมด้วย ลูกค้าฝรั่งส่วนใหญ่น่ารักค่ะ พูดขอบคุณกันเป็นนิสัยปกติ ถ้าเราบริการดีๆหรือเค้ารู้สึกว่าเราใส่ใจ ก็ได้ทิปมือก็มีนะคะ แต่โดยปกติแล้วถ้าได้ก็ต้องไปใส่กล่องทิปที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วเอามาแบ่งกันตอนร้านปิดของทุกวัน  ช่วงไหนพีคๆ คนเยอะ หรือเทศกาล ทิปที่ได้เกือบจะเท่าค่าแรงของวันนั้นเลยแหละ ถ้าเราไม่ได้ช้อปปิ้งอะไรมากมายรายได้ประมาณนี้  ก้ถือว่าพอใช้จ่ายค่าห้องแล้วก็ค่ากินค่ะ ( อ่อ โดยปกติแล้ว ถ้าทำงานร้านอาหารไทย  จะมีข้าวให้ทานฟรีนะคะ ) ถือว่าช่วยเราประหยัดได้ในระดับนึงเลยค่ะ

พอหลังจากจบการเรียนภาษาใน 6 เดือนแรกพี่ก็ต่อด้วยการเรียน Certificate IV  in hospitality  ( Commercial Cookery Course )   เรียนอาทิตย์ละ 2 วัน ซึ่งเป็นการเรียนที่เราจะสามารถต่อยอดไปเป็น Chef ‘s ได้  เอาละค่ะ พอลงคอร์สนี้ ก้ได้อัพเลเวลเข้าไปอยู่ในครัวเป็น Chef ‘s ค่าตัวก็จะสูงขึ้นมาอีกนิดนึง ได้เป็นเหมาจ่าย AU$80 ต่อ 1 กะ กะเช้า (10.30 am.-2.30 pm.) กะเย็น (4.30 pm.-9.00 pm.)  วันไหนได้ทำ 2 กะ ก็สบายละค่ะ มีเงินช้อปปิ้งกะจาย 555+ แต่พี่บอกไว้ก่อนนะคะ รายได้แบบนี้ไม่ใช่มาตรฐานค่ะ  ที่ได้สูงอาจจะเพราะอยู่นอกเมือง เจ้าของร้านเค้าก้จะคิดถึงค่าใช้จ่ายการเดินทางเผื่อเราด้วย เลยให้เราค่อนข้างสูง แต่ถ้าทำในเมืองส่วนใหญ่ก้จะน้อยกว่านี้นิดหน่อย แล้วถ้าวันไหนร้านไม่ยุ่ง คนที่ทำร้านอาหารในเมืองส่วนใหญ่ก้จะโดนปล่อยกลับบ้านเร็ว เพราะพนักงานในเมืองจะเยอะ เป็นการลดต้นทุนของเจ้าของร้านค่ะ  ซึ่งหมายความว่า นอกจากจะได้เงินค่าแรงเป็นชั่วโมง ในราคาที่ไม่ได้สูงสักเท่าไหร่ อาจจะอยู่ราวๆ AU$10-AU$12  ต่อชั่วโมงแล้ว ถ้าร้านเงียบไม่มีคนก็ต้องกลับบ้านเร็ว ได้ชั่วโมงในการทำงานน้อยลงอีก   ในส่วนร้านที่พี่ทำ ถ้าวันไหนเงียบ เจ้าของร้านก็จะให้ทุกคนช่วยกันเช็ดทำความสะอาดร้าน เช็ดโต๊ะ เช็ดจาน เช็ดชั้นวางของ เช็ดตู้เย็น กวาดพื้น ถูพื้น ให้ขึ้นเงากันไปข้างค่ะ  อิอิ  หน้าที่หลักๆของพี่ก็ประมาณนี้ค่ะ

จริงๆแล้ว ถ้าน้องคนไหนภาษาค่อนข้างดี ถ้ามีโอกาสพี่อยากแนะนำให้ไปลองสมัครตามร้านอาหารที่เป็นของฝรั่งดู หรือถ้าเป็นผู้ชายค่อนข้างแข็งแรงหน่อย ลองไปทำงานที่โรงแรมเป็นพนักงานทำความสะอาดดูก็ได้นะคะ เพราะอาชีพพวกนี้อาจจะเหนื่อยมากหน่อยแต่ได้เงินดี เพื่อนๆพี่เล็กหลายๆคนก็ทำกัน แถมถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด ก็ได้ 2-3 แรงเพิ่มเข้าไปอีก ( ทำงานวันเดียวค่าแรงเท่าทำร้านอาหารไทย 2-3 วันก็มีค่ะ ) และได้ฝึกภาษาด้วย

สรุปคือ เมื่อได้งานก็อยากให้น้องๆตั้งใจทำงานให้ดีให้เต็มที่นะค่ะ ลองหยุดคิดเรื่องผลประโยชน์ ค่าตอบแทน ลงไปบ้างถ้าเราไม่ได้ลำบากมากจริงๆ สนุกกับการใช้ชีวิตทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเที่ยว ใช้ให้คุ้มค่า เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ล้ำค่าในชีวิต

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.