094-916-1644, 094-661-9626 @york-institute

Blogs

(ตอน 2) live สดกับคุณเจต Regional Manager, South East Asia จากสถาบันภาษา EC English ที่มีกว่า 30 แคมปัสทั่วโลก

(การสัมภาษณ์นี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ข้อมูลในเรื่องการกักตัว, การเปิดสอนในแต่ละแคมปัส อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามข้อมูลล่าสุดได้ที่ York Institute)

 

(ต่อจากตอน 1)

EC English: ค่ะมันจะเป็นเกาะนะคะ คล้ายๆ เกาะภูเก็ตบ้านเราอย่างนี้ค่ะเมืองเขาจะแบ่งเป็นเขตๆ อย่างนี้ค่ะอย่างเขตที่โรงเรียนตั้งอยู่จะเรียกว่า San Ġiljan เป็นเขตย่านธุรกิจจะมีตึกสำนักงานมีร้านขายของแฟชั่นบ้างแล้วก็จะมี ผับ บาร์ แบบยุโรป ไม่ใช่ ผับ บาร์แบบบ้านเรานะคะแต่จะป็น European ผับ บาร์ จริงๆ เลยอย่างนี้ค่ะ มีร้านอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อค่ะ โรงเรียน แต่ส่วนใหญ่ย่านธุรกิจจะเป็นพวกสำนักงานนะคะ แล้วก็อีกฝั่งนึงเนี่ยเขาจะเรียกว่าเป็นเมืองย่านเก่า ก็จะเป็นย่านที่เป็นตึกเก่าหน่อย สถาปัตยกรรมแบบเก่า และหลังจากนั้นมันก็จะเป็นย่านที่ออกไปนอกเมืองเหล่านี้นิดนึงก็จะเป็นชายหาดแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหาดหินค่ะ แล้วก็จะมีหาดทราย

เพราะฉะนั้นคนที่ไปเที่ยวใน Malta เนี่ยเขาก็จะเที่ยวอยู่หลักๆ 2 แบบก็คือ เที่ยวธรรมชาติตัวชายทะเล เพราะอากาศ Malta เนี่ยมันเป็นแถป Mediterranean ก็คืออากาศไม่รุนแรง หน้าร้อนก็จะเป็นหาดทรายแสงสว่างลมทะเล ฝรั่งตะวันตกแถปยุโรปเนี่ยเขาก็จะนิยมบินไปเพื่อพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนแล้วก็อยู่ยาวที่สุดเท่าที่เขาจะอยู่ได้เพราะอากาศจะไม่เหมือนกับประเทศยุโรปอื่นๆ สักทีเดียว

ช่วงที่ทุกคตนเริ่มเข้าหน้าหนาวในช่วงปลายปีเขาจะเป็นฤดูฝนแล้วก็อากาศเย็นหนาวแต่ไม่หนาวยุโรปฝั่งด้านบนไม่หนาวเท่า Italy เพราะ Malta อยู่ต่ำกว่า Italy ก็จะอบอุ่นกว่านะคะแล้วก็อากาศดีเกือบจะตลอดทั้งปีเพราะความที่เขาเป็นเกาะเนอะ ลมทะเลันก็จะพัดไปพัดมาคืออากาศมันค่อนข้างปลอดโปร่งแล้วก็การใช้ชีวิตอยู่ค่อนข้างง่ายเพราะว่าประชากรเบาบางแล้วก็มีความเป็น Multi Cultural สูง เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวไปมาตลอดเวลา

นักเรียนไทยอาจจะคิดแล้วจะสามารถหาอาหารเอเชียกินได้มั้ยอะไรอย่างนี้นะคะบอกเลยว่ามีทั้งร้านอาหารไทยนะคะแต่ที่เยอะที่สุดจริงๆ นี่ปัจจุบันน่าจะเยอะกว่าร้านอาหารจีนด้วยซ้ำน่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น เกาหลี นะคะบางร้านเป็นลูกผสมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีด้วยแล้วก็เป็นฟิวชั่นด้วยค่ะมีอาหารเวียดนาม เตอกิช อาหารอิตาเลี่ยน เต็มไปหมดนะคะ มี fast food ให้นักเรียนได้กินนะคะ

ค่อนข้างจะใช้ชีวิตง่ายแล้วก็ปลอดภัยมากนะคะ นักเรียนสามารถเดิน หรือว่าใช้ระบบรถบัสนะคะ รถเมล์นี่ล่ะค่ะ แท็กซี่ เค้าก็จะมี application เหมือน Grab บ้านเรานะคะ  ราคาก็ไม่ได้แพงโดดอะไรนะคะ ไม่จำเป็นต้องมีรถ อยู่ได้ด้วยรถสาธารณะนะคะ เพียงแต่ว่าถ้าเกิดอยากไปเที่ยวอีกฝั่งนึงของเกาะอะไรอย่างงี้ค่ะ ถ้านั่งรถเมล์ก็อาจจะต้องนั่งสัก 2 ต่อเนอะ แต่ว่าสามารถเรียกตัว application ของเค้าไปส่งอีกฝั่งนึงของเกาะได้นะคะ เท่าที่พี่สัมผัสดูก็ถือว่าเป็นประเทศที่น่ารักแล้วก็ปลอดภัย เพียงแต่ว่าอาจจะเริ่มซบเซาเงียบเหงาลงในช่วงที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับประเทศ แล้วก็ช่วงนี้จริงๆ เป็นช่วงที่คึกคักที่สุดเพราะว่าเป็นช่วงหน้าร้อน แต่ว่าปีนี้ก็จะรู้สึกเหงาๆ ไปหน่อย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ทุกอย่างก็กลับมาใกล้เคียงกับภาวะปกติเพราะว่า ตัวมอลต้าเอกสารเค้าก็ lockdown ไปประมาณ 2 เดือนครึ่งนะคะ เพิ่งเปิดกลับเข้ามาประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี่เอง แล้วก็สถิติการติดเชื้อในมอลต้าก็เป็นเลขหลักหน่วยนะคะ

York: ก็ถือว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจนะคะ ถือว่ามีทุกอย่างครบ อากาศกำลังดีน่าอยู่แล้วก็ในเรื่องของการเดินทางก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์น้องๆ ทุกคนรวมไปถึงว่าสามารถทำงานได้ด้วยนะคะ แล้วก็ เรื่องค่าครองชีพที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ

EC English: เราสามารถอิงได้จาก เวลาเรายื่นขอวีซ่าเชงเก้นเนอะ ที่เค้าบอกว่านักเรียนควรจะมีเงินสำหรับค่าที่พักและค่ากิน อยู่ที่ราว 44 Euro ต่อวัน ถือว่าไม่เยอะเลย นั่นถือว่าเวลาที่เรามีเตรียมเอกสารเรื่องการเงินในการขอวีซ่า มันไม่ได้ขอโดด สูงไปกว่าที่ นักเรียนหนึ่งคนที่จะสามารถจัดหาได้ ไม่ใช่ว่าหลายๆ ล้านนะคะ ก็ถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล ซึ่งตอนนี้ค่าเงิน Euro ก็ถูกด้วย พี่ไม่แน่ใจน่าจะไม่ถึง 38 บาทหรือเปล่า ราวๆ นี้ ไม่ถึง 40 บาท แน่นอน

York: ก็ที่คำนวณเมื่อกี้นี้ค่ะ 44 Euro ต่อวัน ก็เดือนนึงตีไป 30 วันเนอะ ก็จะประมาณ 1,320 Euro นะคะ

EC English: น้องตีไปประมาณ 50 Euro ง่ายๆ

York: ใช่ เดือนนึงก็ประมาณสี่หมื่นปลายๆ ห้าหมื่นต้นๆ

EC English: จริงๆ ถ้าบริหารจัดการเรื่องค่ากินมันก็ไม่ถึงอยู่แล้วเนอะ จะผันแปลไปตามค่าที่พักที่เด็กเลือกเอง

York: ใช่ค่ะ เพราะนี่เป็นแค่การเงินที่ทางสถานทูตกำหนดไว้เท่านั้นเองค่ะ ถ้าเกิดว่าน้องๆ ใช้จ่ายอย่างประหยัดไม่ได้กินข้าวนอกบ้านบ่อยแล้วก็ซื้ออาหารมาทำกินเอง หรือเลือกที่พักที่ไม่ได้ราคาสูงเกินไป มันก็จะประหยัดมากกว่านี้

EC English: อันนี้ที่พี่ตีที่ 50 Euro นี่คือพื้นฐานของการไปแบบนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นที่พักที่ตีเป็นรายวันมันจะราคาแพงกว่าที่เราเช่าอยู่เป็นรายเดือนอยู่แล้ว

York: อันนี้ก็แค่ให้เห็นภาพว่าไปใช้ชีวิตที่นู่นค่าใช้จ่ายประมาณที่เท่าไร แต่อย่างที่บอกน่ะค่ะอันนี้มันเป็นเรทสำหรับเวลาที่เราไปเที่ยว เพราะฉะนั้นถ้าไปอยู่จริงๆ มันจะไม่ขนาดนี้

EC English: เพื่อให้เห็นภาพกลมๆ ก็ให้เราเตรียมเผื่อไว้เนอะ งั้นถัดมาพี่จะมาข้ามมาฝั่งโอเชเนีย เท่าที่คุยกับน้องเกลคือยังมีนักเรียนที่สนใจไปออสเตรเลียมากอยู่และมีนิวซีแลนด์ปะปลายเนอะ อาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองประเทศอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 40 ชม. ต่อ 2 สัปดาห์นั่นเอง

เดี๋ยวพี่จะแชร์สกรีน เห็นไหมเอ่ย ไม่ใช้เวลานานนะคะ อันนี้นะคะก็จะเป็น snap shot ของ EC นะคะ เราอยู่ในตลาดมาแล้ว 26 ปีในฐานะที่เป็น Chain School นะคะ ไม่ได้นับตั้งแต่เราเปิดโรงเรียนจริงๆ เลยนะคะ แล้วเราก็มีสาขาในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นะคะ เค้าใช้คำว่าเป็น Boutique School นะคะ เพราะว่าเราก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ในหน้าตาของโรงเรียนนะคะ แล้วก็เรามีหลักสูตรนะคะที่พิเศษกว่าโรงเรียนอื่นนิดนึง เดี๋ยวเราค่อยคุยกันเรื่องนี้นะคะ

ถัดมาคือ premium location นะคะ เพราะทุกโรงเรียนของเราอยู่ใจกลางเมืองหมด เรามีครูที่อยู่กับเรามานาน บางคนอยู่กับเราตั้งแต่เปิด เราเป็นไม่กี่โรงเรียนที่ครูยังอยู่กับเรานานที่สุดนะคะ ถัดมาเรามีตัวที่เป็น online platform นะคะซึ่งมาก่อนการเรียนแบบออนไลน์ที่เราทราบกันปกตินะคะ มันเป็นการเรียนที่เกิดจากการเรียนที่เสริมจาก face to face ที่เรามีอยู่แล้วนะคะ

ถัดมาเรามี Oxford Online Placement test นะคะ ซึ่งอันนี้จะเป็นของทุกที่เลย ไม่ใช่แค่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อย่างเดียวนะคะ ตัวนี้เราซื้อลิขสิทธิ์การสอบออนไลน์จาก Oxford University Press นะคะ ซึ่งเมื่อนักเรียนเข้าสอบ OOPT ก่อนการเรียนนี่ค่ะ แล้วเมื่อเรียนจบสอบ Exit test นักเรียนก็จะได้ตัว Oxford Certificate ควบคู่ไปกับตัว EC Certificate ด้วยนะคะ

ถัดมาคือตัว Net Promotor Score ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับนักเรียนสักเท่าไรนะคะ เรียกได้ว่าประเมินคุณภาพทางการศึกษา แล้วก็เราได้ Star Awards ในส่วนของ Chain School มา 4 ครั้งแล้ว นี่ก็จะเป็นโรงเรียนที่เรามีเนอะ

พี่ก็จะข้ามไปไวๆ อันนี้ก็เป็นแผนที่ที่บอกว่าเรามีที่ไหนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์บ้าง ในออสเตรเลียเราก็จะอยู่ทางฝั่ง East Coast ทั้งหมดนะคะจะมี Melbourne ที่อยู่ในรัฐ Victoria นะคะมีที่ Sydney ที่อยู่ใน New South Wale นะคะแล้วก็มีสองเมือง Brisbane และ Gold Coast ในรัฐ Queensland นะคะ แล้วก็มีที่ Auckland ใน New Zealand นะคะ

EC เราจะมี Gramick เล็ก ๆ นะคะในการต้อนรับเด็กที่ไปเรียนวันแรก นั่นคือเราจะมีกิจกรรมที่เรียกว่า The Orange Carpet ซึ่งก็จะเป็นการ Meet and Greet นักเรียนวันอาทิตย์นะคะก่อนการเริ่มเรียนวันจันทร์ ซึ่งนักเรียนจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้นะคะ แล้วก็ในวันจันทร์นักเรียนจะได้เดินพรมส้มนะคะ เป็นการต้อนรับนักเรียนใหม่ในทุกๆ สัปดาห์เนอะ นี่ก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ เล็กๆ น้อยๆ

ก่อนเข้าสู่ระบบการเรียนนะคะ เราจะมีตัวที่เป็นออนไลน์ platform ให้นะคะ เพื่อที่นักเรียนทุกคนที่จะได้ดูเค้าเรียกว่าเป็น progression ของตัวเองว่าเรามีการพัฒนามากน้อยแค่ไหน เห็นว่าเราเข้าเรียนหรือขาดเรียนไปกี่เปอร์เซ็นแล้ว โดยที่จะได้ไม่พลาดไม่ถูกยกเลิกวีซ่านักเรียนในกรณีที่เราไม่รู้เลยว่าเราขาดไปถึงเกณฑ์ที่กำหนดหรือยังนะคะ แล้วก็จะมีการตามให้นักเรียนส่งงานส่งการบ้านนะคะ แล้วก็จะมีการปรับแจ้งนะคะว่านักเรียนมีพัฒนาการขนาดไหน อะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เป็นตัวกลางในการวัดพัฒนาการของเรา

อันนี้คือข้อพิเศษอีกอันนะคะที่เราอาจจะแตกต่างจากโรงเรียนอื่นคือเราเป็น Partner ร่วมกับ National Geographic Learning นะคะ นักเรียนหลายคนอาจจะรู้จัก National Geographic นะคะในส่วนของที่เค้าเป็นผู้สร้างสารคดีในหลายๆ ส่วนนะคะ หลายๆ ความรู้นะคะ เค้ายังเป็นเจ้าของหนังสือเรียนด้วยเหมือนกันนะคะ ที่เรียกว่า outcome ปัจจุบันเป็น Single Edition เราทำงานร่วมกับ National Geographic Learning ในการให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ผ่านบทเรียนที่ National Geographic สร้างขึ้นมา มันก็จะครอบคลุมในทุกๆ เรื่องในโลกใบนี้ที่มนุษย์คนนึงสามารถเรียนรู้ได้นะคะ อันนี้ก็จะแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆ ที่อาจจะใช้หนังสือเรียนกลางนะคะ แล้วก็เราวางใจตัว National Geographic เพราะว่าเค้ามีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในทุกๆ เรื่องนะคะ ที่เกี่ยวกับเราทั้งทางวิทยาศาสตร์ ทางสังคมศาสตร์ ทางศิลปะวัฒนธรรมนะคะ ทางความเป็นไปหลายๆ เรื่อง กีฬาอย่างงี้นะคะ ดนตรีนะคะ มีหมดเลย เพราะฉะนั้นนี้คือเหตุที่เราเลือกที่จะเป็น partner กับทาง National Geographic นะคะ

ถัดมานะคะ ในส่วนของกระบวนการเรียน เรามีหลักสูตรอะไรบ้างสำหรับออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ หลักๆ ก็คือ ภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป มี IELTS คอร์สนะคะ มี Cambridge นะคะ แล้วก็จะมีตัวที่ต่างจากแคมปัสในประเทศอื่นนั่นก็คือตัว English Academic of Purpose นะคะหรือที่เรียกชื่อย่อว่า EAP อันนี้เนี้ย หลักๆ จะมีอยู่ในออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ เป็นหลัก

อันนี้นี้เนี้ย มันจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งเค้าจะเรียกว่าเป็น Bridging Program, Direct Entry หรืออะไรก็ว่าไปซึ่งอันนี้เนี้ยของทาง EC เรา Partner ร่วมกับทาง TAFE ของออสเตรเลีย ทำเป็นแพคเกจได้นะคะ แล้วก็กับตัวที่เป็น VET School ที่เป็นของเอกชนอื่นๆ อันนี้คือตัวอย่างนะคะ เราสามารถแพคเกจได้กับ Le Cordon Bleu นะคะ ถ้ามีนักเรียนสนใจอยากจะไปเรียน cooking, patisserie กับทาง Le Cordon Bleu นะคะ ที่ Sydney ก็ได้ TAFE อย่างที่พูดไปแล้วนะคะ

แล้วก็ตัว VET ที่เป็นเอกชนหลายๆ ล่าสุดเราไปร่วมกับทาง Laneway สำหรับนักเรียนที่เรียนที่ออสเตรเลียแล้วยังไม่อยากกลับ หรือติดค้างอยู่ยังกลับไม่ได้ก็ตัว Laneway จะเป็น Vocational Education Training School นะคะ จะสอนในส่วนที่เป็น Business เป็นหลักนะคะเปิดสอน Certificate, Diploma หรือ Advanced Diploma นะคะ ที่เปิดสอนก็จะมีตรงนี้ มี 4 สาขา Business, Entrepreneurship & Innovation, Marketing, Leadership นะคะ ที่เราร่วมกับเค้าเพราะที่ตั้งเค้าอยู่ใกล้กับเรามากนะคะ นักเรียนที่เรียนจบแล้วอยากไปเรียนตัวนี้เพื่อเพิ่มพูนทักษะทางธุรกิจก็ไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ของเค้าจะมีที่ Sydney และ Melbourne นะคะ

ที่นี่สำหรับนักเรียนที่อยู่ในออสเตรเลียนะคะ อยากจะเปลี่ยนมาเรียนกับ EC ปัจจุบันเรามีโปรโมชั่นอยู่ที่ 210 เหรียญ เพราะว่ามันเป็นระบบ Blended Learning มันจะไม่ใช่ face to face ทั้งหมด เพราะว่าในปัจจุบันเค้ายังต้องควบคุมการระบาดของ Covid-19 ในระดับนึง ก็เป็นการป้องการแบบภาพกว้าง ยังคงให้โรงเรียนต้องเรียนแบบผสมผสานอยู่ไม่ใช่เรียนเต็มเวลา 100% เนอะนะคะ ถึงตรงนี้มีคำถามอะไรไหมคะ

York: ก็เท่ากับว่าหลักสูตรเมื่อกี้ที่พูดถึง ทั้งหมดเป็นหลักสูตรที่อยู่ในแคมปัสของออสเตรเลีย ถูกไหมคะ แล้วก็สำหรับโปรโมชั่นเมื่อสักครู่นี้ที่คุณเจตบอกไป ถ้าน้องๆ คนไหนที่ยังอยู่ที่ออสเตรเลีย ยังไม่อยากจะกลับไทย และก็ยังอยากเรียนภาษาอังกฤษต่อ ก็สามารถติดต่อพี่เกล หรือว่าติดต่อ York ได้นะคะ แล้วก็เราจะดำเนินเรื่องของการสมัครเรียน ทำวีซ่าให้ ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ราคาดีมาก เรายังไม่เคยเห็น EC ลดขนาดนี้เลย

EC English: ใช่ค่ะ เพราะเราทราบว่าเด็ก onshore ที่นู้นนะคะยังมีปัญหาหลายอย่าง อย่างที่บอกว่าทางรัฐบาลที่นั่นเค้ายังมีมาตรการควบคุมโรคในระดับนึง ก็เป็นการช่วยเหลือนักเรียน onshore ที่นั่น เท่าที่ทราบมาปัจจุบันยังหาเที่ยวบินกลับมาไทยค่อนข้างยากและก็ราคาแพงมาก ก็ไม่ได้บินทุกเดือน แล้วก็ต้องรอทางสถานทูตไทยแจ้งว่าจะมีเที่ยวบินจากไทยไปเพื่อรับนักเรียนกลับ บางคนต่อคิวแล้วก็ยังไม่ได้เที่ยวบินสักที หรือบางคนถอดใจแล้ว อยากเรียนต่อแระ หรืออาจจะได้ข่าวจากทางตรวจคนเข้าเมืองที่นู้นว่าเริ่มสร้างกระบวนการที่ง่ายขึ้นสำหรับนักเรียนที่ต้องการต่อวีซ่าที่นั่น ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นนะคะ เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยังติดค้างอยู่ที่ออสเตรเลียนะคะ อันนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือจากโรงเรียนด้วยเหมือนกันที่เราก็ไม่อยากเพิ่มภาระให้นักเรียนมากนะคะ ในช่วงเหตุการณ์แบบนี้ น้องสามารถติดต่อพี่เกลได้นะคะ สมมุติว่าอยากย้ายมา Sydney นะคะ หรือ Brisbane ไป Gold Coast จะง่ายหน่อยเพราะอยู่รัฐเดียวกัน การเดินทางข้ามรัฐตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องยาก

York: ก็ถือว่าราคาค่อนข้างดีเลย 210 เหรียญเท่านั้นเองนะคะ ถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพการเรียนการสอน เพราะต้องบอกก่อนว่าปกติแล้ว EC ไม่ได้ราคานี้แน่นอนค่ะ เอ่อที่คุณเจษบอกว่าเป็นการเรียนแบบ Blended ก็คือการเรียนผสมกันระหว่างเรียนในคลาสแบบ face to face แล้วก็เรียนออนไลน์ด้วย อันนี้พอจะบอกได้ไหมคะว่าเรียนออนไลน์คือเรียนกี่ Lessons และเรียนในคลาสเรียนกี่ lessons นะคะ

EC English: อันนี้เป็นตัวอย่างตารางเรียนของที่ออสเตรเลีย ปัจจุบัน เราจะให้เรียน face to face คือวันจันทร์กับอังคารนะคะ แล้วก็เรียนออนไลน์ในวันพุธ พฤหัส และศุกร์ นะคะ ช่วงเรียนออนไลน์คือ 8 โมงเช้านะคะ แล้วก็เลิกไม่เกิน 12.20 นะคะ ส่วนการเรียนออนไลน์เนี้ยก็จะเริ่มเช้าหน่อย เพราะว่าการเริ่มเรียนเช้านี่สมองจะรับข้อมูลได้มากหน่อยนะคะ แล้วก็จะเลิกเรียนไม่เกิน 12.50 นะคะ ส่วนวันศุกร์จะเลิกไม่เกินเที่ยงนะคะ

ทีนี่ออนไลน์คาบเรียนของเราจะอยู่ที่ 45 นาที แล้วก็จะมีเบรก 10 นาทีนะคะ แล้วก็กลับมาเรียน 45 นาที แต่ว่าเรากำหนดว่า 1 ชั้นเรียนออนไลน์ของเรา จะไม่เกิน 8 คนนะคะ เพราะฉะนั้นอย่างชั้น Pre-intermediate ที่มีนักเรียนเยอะมาก ก็จะมีชั้นเรียน Pre-intermediate หลายๆ ห้องออนไลน์นะคะ

ทีนี่พูดถึงออนไลน์เราสอนผ่านอะไร เราไม่ได้สอนผ่าน zoom นะคะ เราจะสอนผ่าน Microsoft Team ซึ่งทาง EC จะมอบ Microsoft Package A1 ให้นักเรียนทุกคน นั่นหมายถึงว่านักเรียนจะมีสิทธิใช้ Microsoft Office ได้เป็นเวลา 12 เดือนไปเลย เพราะว่าในปัจจุบัน Microsoft ไม่มากับเครื่องอีกแล้ว ต้องซื้อตลอดแล้วก็ต้องต่อทุกปี แต่ว่าอันนี้ให้นักเรียนเลย พูดง่ายๆ คือเราซื้อให้กับนักเรียนที่เรียนออนไลน์กับเรา สาเหตุง่ายๆ ที่เราเลือก Microsoft Team ไม่ได้ใช้ zoom หรือ steamyard ที่หลายๆ คนใช้เพราะมันมีข้อจำกัด สอง application นี้หรือ provider มันจะจำกัดกิจกรรมในระดับนึง แต่ถ้าเด็กได้สิทธิในการใช้ Microsoft Team นี่ มันจะมีห้อง chat เป็นของมันเองสามารถส่งการบ้านนะคะ แล้วก็ตอบกันได้เหมือนเค้าเป็นชุมชนอันนึงเลย มันก็จะเหมาะว่าใช้ provider ที่เหมาะกับการประชุมอย่างเดียว อันนี้ก็เป็นสาเหตุที่เราเลือก

York: ถือว่าดีแล้วก็คุ้มค่ามากๆ เลยนะคะ

EC English: ที่อื่นที่ใช้ provider แบบนี้อาจจะคุยกับครูค่อนข้างลำบากเพราะว่าพอจบ session ของการสอนก็จบเลย เราไม่สามารถแชทกับเค้าได้ อย่างนักเรียนเอเชียส่วนใหญ่จะให้ Line application ซึ่งครูไม่ใช่ Microsoft Team เราสามารถ download ลงโทรศัพท์มือถือได้ ตัว ios และ android เราก็สามารถแชทกับครูได้ กับเพื่อนร่วมห้องเราได้

York: เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างสะดวกนะคะ แล้วอีกอย่างนึงบอกว่าน้องๆ จะได้ตัวนี้ไปใช้ฟรีๆ เลยเมื่อสมัครเรียนกับทาง EC นะคะ

EC English: ใช่ค่ะ ใช้ได้ 12 เดือนนับตั้งแต่วันที่เปิด activate นะคะ

York: ที่บอกว่าให้ 12 เดือน ถึงแม้ว่าสมมุตินักเรียนสมัครเรียนแค่ 3 เดือน แต่ตัว Microsoft นี่ใช้ได้ถึง 12 เดือนเลยเหรอคะ

EC English: ใช่ค่ะ ได้ 12 เดือนไปเลย

York: ถือว่าคุ้มค่ามากนะคะ แล้วก็น้องๆ คนไหนสนใจ อย่าลืมติดต่อทาง York ได้นะคะ

EC English: ตรงนี้มีคำถามอะไรไหมคะ

York: โอเค ยังไม่มีค่ะ

EC English: ถ้าเกิดสมมุติน้องๆ ฟังแล้วอยากจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็ติดต่อพี่เกลได้ แล้วก็ถ้าเกิดทาง EC มีข้อมูลอัพเดทอะไรเราก็จะส่งให้ทาง York นะคะ อัพเดทน้องๆ ต่อไปเนอะ

York: เดี๋ยวรบกวนขอข้อมูลเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เรื่องของหลักสูตรก็อธิบายไปแล้วเนอะว่าถ้าน้องๆ เรียนที่ออสเตรเลีย จะได้เรียนหลักสูตรอะไรกันบ้าง แต่ว่าถ้าหลักสูตรตัวอื่นที่มีสอนในแคมปัสที่อังกฤษ หรือที่มอลต้า หลักๆ ของ EC มีหลักสูตรอะไรบ้างเอ่ย

อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 3 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ

(ตอน 3) live สดกับคุณเจต Regional Manager, South East Asia จากสถาบันภาษา EC English ที่มีกว่า 30 แคมปัสทั่วโลก

หากน้องๆ สนใจเรียนภาษาอังกฤษ๋กับสถาบันคุณภาพ EC English สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ

เรียนต่ออังกฤษ

เรียนภาษาที่อังกฤษ

เรียน High school ที่อังกฤษ

เรียน Certificate ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่ออเมริกา

เรียนภาษาที่อเมริกา

เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

เรียน Diploma ที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อนิวซีแลนด์

เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์

เรียน High school ที่อเมริกา

เรียนปริญญาโทที่ออสเตรเลีย

เรียนต่อแคนาดา

เรียนภาษาที่แคนาดา

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา

เรียนแฟชั่นที่ Marangoni

เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์

เรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์

เรียนปริญญาโทที่อเมริกา

เรียนทำอาหารที่ Le Cordon Bleu

York Institute 283/39, 41 Home Place Building, 8th Fl., Sukhumvit 55 (Thonglor 13), Bangkok 10110 THAILAND Tel: (66) 94-916-1644, (66) 94-661-9626 Email: info@york-institute.com Copyright © 2022 All Rights Reserved.